ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ ป.3
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียน บ้านศาลเจ้าพ่อ
ผู้รายงาน นางสาวสายสุณีย์ แสงก่ำ
ปีที่จัดทำผลงาน 2562
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านศาลเจ้าพ่อ อำเภอ
วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 ภาคเรียน
ที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 22 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 เล่ม ใช้เวลา 1 ภาคเรียน เวลา 9 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.80 ความเชื่อมั่น 0.82 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่น 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1) การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ 82.27 / 87.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2) นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยหลังใช้ชุดกิจกรรมสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนใช้ชุดกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) ค่าดัชนีประสิทธิผลของผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7910 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ร้อยละ 79.10
4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยโดยรวม เท่ากับ ( = 4.33 ) หมายความว่า มีความพึงพอใจมาก
โดยสรุปการวิจัยในครั้งนี้ทำให้ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด ชีวิตสดใส ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ประกอบ
การสอนซึ่งช่วยทำให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายได้