การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียน
ชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้วิจัย นางวัชยา บุรานนท์
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1. ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา โดยการสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2. จัดทำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3. ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4. ประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปนักเรียน ชาย หญิง ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 จำนวน 30 คน โรงเรียนเทศบาล 1 (ขจรเนติยุทธ) สังกัดเทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 30 แผน 2) คู่มือครูสำหรับการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา 4) แบบสังเกตพฤติกรรมในการสืบเสาะหาความรู้ และ 5) แบบสังเกตความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนด้วย t- test
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนโดยนำเรื่องที่สนใจ อาจมาจากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่เรียนมาแล้ว เป็นตัวกระตุ้นให้สร้างคำถามเป็นแนวทางที่ใช้ในการสำรวจตรวจสอบอย่างหลากหลาย
1.2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) เมื่อทำความเข้าใจในประเด็น หรือคำถามที่สนใจ มีการกำหนดแนวทางการสำรวจตรวจสอบ ตั้งสมมติฐาน กำหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อสนเทศหรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ วิธีการตรวจสอบอาจทำได้หลายวิธี เช่น ทำการทดลอง ทำกิจกรรมภาคสนาม การศึกษาข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ
1.3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เมื่อได้ข้อมูลเพียงพอ จึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล นำเสนอผลที่ได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บรรยายสรุป สร้างแบบจำลองหรือรูปวาด
1.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนำความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมแนวคิดที่ได้จะช่วยโดยเชื่อมโยงกับเรื่องต่าง ๆ ทำให้เกิดความรู้กว้างขึ้น
1.5 ขั้นประเมิน (Evaluation) เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ ต่าง ๆ ว่าผู้เรียนมีความรู้อะไรบ้าง อย่างไรและมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะนำไปสู่การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น ๆ
2. รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.10- 4.80) ผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.78, S.D. = 0.43) และความคิดเห็นของครูปฐมวัยตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.78, S.D. = 0.43)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า คะแนนเฉลี่ยทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาหลังการทดลองใช้รูปแบ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้
1) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาหลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01ถือว่าผ่านเกณฑ์
2) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้หลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์
3) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียน
ชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้วิจัย นางวัชยา บุรานนท์
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1. ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา โดยการสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2. จัดทำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3. ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4. ประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปนักเรียน ชาย หญิง ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 จำนวน 30 คน โรงเรียนเทศบาล 1 (ขจรเนติยุทธ) สังกัดเทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 30 แผน 2) คู่มือครูสำหรับการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา 4) แบบสังเกตพฤติกรรมในการสืบเสาะหาความรู้ และ 5) แบบสังเกตความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนด้วย t- test
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนโดยนำเรื่องที่สนใจ อาจมาจากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่เรียนมาแล้ว เป็นตัวกระตุ้นให้สร้างคำถามเป็นแนวทางที่ใช้ในการสำรวจตรวจสอบอย่างหลากหลาย
1.2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) เมื่อทำความเข้าใจในประเด็น หรือคำถามที่สนใจ มีการกำหนดแนวทางการสำรวจตรวจสอบ ตั้งสมมติฐาน กำหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อสนเทศหรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ วิธีการตรวจสอบอาจทำได้หลายวิธี เช่น ทำการทดลอง ทำกิจกรรมภาคสนาม การศึกษาข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ
1.3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เมื่อได้ข้อมูลเพียงพอ จึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล นำเสนอผลที่ได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บรรยายสรุป สร้างแบบจำลองหรือรูปวาด
1.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนำความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมแนวคิดที่ได้จะช่วยโดยเชื่อมโยงกับเรื่องต่าง ๆ ทำให้เกิดความรู้กว้างขึ้น
1.5 ขั้นประเมิน (Evaluation) เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ ต่าง ๆ ว่าผู้เรียนมีความรู้อะไรบ้าง อย่างไรและมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะนำไปสู่การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น ๆ
2. รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.10- 4.80) ผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.78, S.D. = 0.43) และความคิดเห็นของครูปฐมวัยตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.78, S.D. = 0.43)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า คะแนนเฉลี่ยทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาหลังการทดลองใช้รูปแบ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้
1) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาหลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01ถือว่าผ่านเกณฑ์
2) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้หลังใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถือว่าผ่านเกณฑ์
3) เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์