การประเมินโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพ
โรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562
ผู้รายงาน นางอรอุมา จันทร์รัตน์ โรงเรียนวัดจังโหลน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สงขลา เขต ๒
ปีที่ประเมิน ๒๕๖๒
บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการด้านกระบวนการดำเนินงานโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการ โดยประยุกต์รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มาใช้ในการประเมิน โดยใช้วิธีการประเมิน โดยใช้วิธีการประเมินสามลักษณะ คือการประเมินโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้น ใช้ผลการประเมินคุณภาพสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน และใช้ผลการประเมินจากแบบบันทึกผลการระดมทรัพยากรตามสภาพจริง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ครู จำนวน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ผู้ปกครอง จำนวน 31 คน และนักเรียน จำนวน 35 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับและมีคำถามปลายเปิดจำนวน 6 ฉบับ ทุกฉบับผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยมีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง ๐.๙๒- 0.๙๓ แบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวปริมาณและคุณภาพของการระดมทรัพยากร จำนวน ๔ ด้าน และแบบบันทึกผลการประเมินคุณภาพสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ ของโรงเรียน ใช้บันทึกผลการประเมินตามาภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรม SPSS (Statistical package for Social Sciences for Windows version ๑๖) ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมทั้ง 2 กลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินเพื่อพิจารณา รายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ความคิดเห็นของครู มีความเหมาะสมในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X ̅ = 3.64,S.D = .89) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด รองลงมาได้แก่ ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมในระดับมาก (X ̅ = 3.63,S.D = .83) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู โดยรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก (X ̅ = 3.65,S.D = .66) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ ของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง โดยรวมทั้ง 3 กลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีความเหมาะสมในระดับมากมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X ̅ = 3.71,S.D = .56) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทุบประเด็นตัวชี้วัด รองลงมาได้แก่ ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.64,S.D = .77) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์ การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากเช่นกัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X ̅ = 3.63,S.D = .77) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ซึ่งประกอบด้วย 5 ประเด็น ได้แก่
4.1 ปริมาณและคุณภาพของการระดมทรัพยากรทางการศึกษาทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
4.1.1 ด้านบุคคล โรงเรียนวัดจังโหลนได้รับการสนับสนุนทรัพยากรด้านบุคคล ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ครู ผู้ปกครองนักเรียน ผู้ทรงคุณวุฒิ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน รวมถึงบุคคลฝ่ายต่างๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน อย่างต่อเนื่อง โดยปีการศึกษา 2562 ได้รับการสนับสนุน จำนวน 27 รายการ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.1.2 ด้านงบประมาณ โรงเรียนวัดจังโหลนได้รับการสนับสนุนทรัพยากรด้านงบประมาณ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อใช้ในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2562 ได้รับการสนับสนุน จำนวน 33 ราย เป็นเงิน 493,423 บาท (ผ่านเกณฑ์การประเมิน)
4.1.3 ด้านวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง โรงเรียนวัดจังโหลน ได้รับการสนับสนุนทรัพยากรด้านวัสดุ อุปกรณ์ อาคารสถานที่ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จากผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อใช้ในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยปีการศึกษา 2562 ได้รับการสนับสนุน จำนวน 19 รายการ คิดเป็นมูลค่า 95,927.30 บาท ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.1.4 ด้านการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดจังโหลน สามารถระดมทรัพยากรด้านการบริหารจัดการโดยการเข้ามามีส่วนร่วมของบุคคล องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ในการบริหารจัดการสถานศึกษาทั้ง 4 งาน ได้แก่ งานบริหารวิชาการ งานบริหารงบประมาณ งานบริหารบุคคลและงานบริหารทั่วไป ของโรงเรียนปีการศึกษา 2562 อย่างต่อเนื่อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.2 ผลการประเมินด้านการมีส่วนร่วมในการระดมทรัพยากรทางการศึกษาทั้ง 4 ด้าน ของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน ตามความคิดเห็นของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยรวมทั้ง 3 กลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณา รายกลุ่ม ผู้ประเมิน พบว่า ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีความเหมาะสมในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X ̅ = 3.75,S.D = .53) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด รองลงมาได้แก่ ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.62,S.D = .73) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X ̅ = 3.60,S.D = .67) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
4.3 ผลการประเมินคุณภาพการบริหารจัดการศึกษาทั้ง 4 งาน ได้แก่ งานบริหารวิชาการ งานบริหารงบประมาณ งานบริหารบุคคลและงานบริหารทั่วไป ของโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ โดยรวมทั้ง 3 กลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 10 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณา รายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ความคิดเห็นของครู มีความเหมาะสมในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X ̅ = 3.68,S.D = .64) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทุกประเด็นตัวชี้วัด รองลงมาได้แก่ผู้ปกครอง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.67,S.D = .58) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X ̅ = 3.58,S.D = .54) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
4.4 ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ตามมาตรฐานระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 พบว่า ทุกมาตรฐานมีคุณภาพอยู่ในระดับดีมากและดีเยี่ยม ได้คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.5 ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนวัดจังโหลน ปีการศึกษา 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่ม ผู้ประเมิน พบว่า ความพึงพอใจของผู้ปกครองมีความเหมาะสมในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X ̅ = 3.67,S.D = .59) ได้คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด รองลงมาได้แก่ ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.66,S.D = .67) ได้คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X ̅ = 3.53,S.D = .86) ได้คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้
1. โรงเรียนควรชี้แจง ทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของโครงการอย่างต่อเนื่อง
2. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดดิน จุดที่ควรพัฒนา เพื่อกำหนดรูปแบบ และแนวทางในการระดมทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนตามความเหมาะสม
3. โรงเรียนควรนำรูปแบบ วิธีการ และกิจกรรมต่างๆ ในโครงการไปประยุกต์ใช้ในการระดมทรัพยากรการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน
ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมิน/วิจัยครั้งต่อไป
1. ให้มีการประเมินผลการใช้ทรัพยากรทางการศึกษาเชิงคุณภาพ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับการลงทุนทางการศึกษาของรัฐและเกิดความเสมอภาค
2. ให้มีการประเมินความต้องการจำเป็นของทรัพยากรทางการศึกษาเป็นรายด้านเพื่อเป็นข้อมูลในการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับขนาดของโรงเรียน
3. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการระดมทรัพยากรทางการศึกษา ตามบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป