การวิจัยและพัฒนาการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
ชื่อเรื่อง : การวิจัยและพัฒนา “การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
ของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา”
ผู้รายงาน : นายสมคิด นาคกุล ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนห้วยแก้ววิทยา
ปีการศึกษา : 2563
การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่าย การมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยามีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา 2)เพื่อศึกษาความสามารถทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา ปีการศึกษา 2560-2562 3)เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองต่อรูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาก่อนและหลังการพัฒนา 4)เพื่อประเมินผลที่ได้รับจากการนำนักเรียนที่ได้รับการพัฒนาตามรูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาในระดับต่างๆ ประชากรที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่นักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2560-2562 จำนวน 197,206 และ193 คน ตามลำดับ ประชากรที่ใช้ในการสำรวจความคิดเห็นก่อนและหลังการพัฒนาประกอบด้วย ครูและบุคลากรทางการศึกษา 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 51 คน และผู้ปกครอง 45 คน รวม 122 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ 1) ค่าความสอดคล้อง (IOC) ของข้อคำถามของแบบสอบถาม 2) หาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม 3) ค่าเฉลี่ย (m) และ 4) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s)
สรุปผลการวิจัย
ผลการการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาจากสำรวจตนเอง การสังเกต สัมภาษณ์ การศึกษาผลงาน การทดสอบ และการเสนอชื่อ เป็นเวลา 3 ปี พบว่า จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมกีฬาเบื้องต้น เพิ่มขึ้นทุกปี นักเรียนที่มีความสามารถทางด้านกีฬาในระดับต่าง ๆ ได้แก่ มีแววด้านกีฬา แววความสามารถพิเศษด้านกีฬา ความสามารถพิเศษด้านกีฬาโดดเด่น แววความเป็นเลิศทางด้านกีฬาและ ความเป็นเลิศทางด้านกีฬา เพิ่มขึ้นทุกปีตามลำดับ ผลการสำรวจความคิดเห็น ทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา ก่อนการพัฒนาพบว่ามีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางหลัง การพัฒนาอยู่ในระดับมาก รางวัลที่ได้รับจากแข่งขันกีฬาและพลศึกษาจากการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาเป็นเวลา 3 ปี คือ ปีการศึกษา 2560-2562 มีทั้งระดับเครือข่ายตำบล อำเภอ และจังหวัด และระดับชาติ สูงสุดคือเหรียญทองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันตอบปัญหาสุขศึกษาและพลศึกษาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในงานศิลปะหัตถกรรม ระดับภาคเหนือ(ระดับชาติ) ในปีการศึกษา 2562
ของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา”
ผู้รายงาน : นายสมคิด นาคกุล ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนห้วยแก้ววิทยา
ปีการศึกษา : 2563
การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่าย การมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยามีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา 2)เพื่อศึกษาความสามารถทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา ปีการศึกษา 2560-2562 3)เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองต่อรูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาก่อนและหลังการพัฒนา 4)เพื่อประเมินผลที่ได้รับจากการนำนักเรียนที่ได้รับการพัฒนาตามรูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาในระดับต่างๆ ประชากรที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่นักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2560-2562 จำนวน 197,206 และ193 คน ตามลำดับ ประชากรที่ใช้ในการสำรวจความคิดเห็นก่อนและหลังการพัฒนาประกอบด้วย ครูและบุคลากรทางการศึกษา 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 51 คน และผู้ปกครอง 45 คน รวม 122 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ 1) ค่าความสอดคล้อง (IOC) ของข้อคำถามของแบบสอบถาม 2) หาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม 3) ค่าเฉลี่ย (m) และ 4) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s)
สรุปผลการวิจัย
ผลการการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาจากสำรวจตนเอง การสังเกต สัมภาษณ์ การศึกษาผลงาน การทดสอบ และการเสนอชื่อ เป็นเวลา 3 ปี พบว่า จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมกีฬาเบื้องต้น เพิ่มขึ้นทุกปี นักเรียนที่มีความสามารถทางด้านกีฬาในระดับต่าง ๆ ได้แก่ มีแววด้านกีฬา แววความสามารถพิเศษด้านกีฬา ความสามารถพิเศษด้านกีฬาโดดเด่น แววความเป็นเลิศทางด้านกีฬาและ ความเป็นเลิศทางด้านกีฬา เพิ่มขึ้นทุกปีตามลำดับ ผลการสำรวจความคิดเห็น ทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยา ก่อนการพัฒนาพบว่ามีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางหลัง การพัฒนาอยู่ในระดับมาก รางวัลที่ได้รับจากแข่งขันกีฬาและพลศึกษาจากการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมโรงเรียนห้วยแก้ววิทยาเป็นเวลา 3 ปี คือ ปีการศึกษา 2560-2562 มีทั้งระดับเครือข่ายตำบล อำเภอ และจังหวัด และระดับชาติ สูงสุดคือเหรียญทองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันตอบปัญหาสุขศึกษาและพลศึกษาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในงานศิลปะหัตถกรรม ระดับภาคเหนือ(ระดับชาติ) ในปีการศึกษา 2562