LASTEST NEWS

27 พ.ย. 2567สพฐ.มีหนังสือ ด่วนที่สุด! ให้นำแนวทาง PISA มาใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสรรหาบุคลากร ทุกตำแหน่ง 27 พ.ย. 2567บอร์ดก.ค.ศ.เคาะร่างแนวปฏิบัติการย้ายครู ผ่านระบบ TRS เตรียมเปิดใช้งาน มกราคม 2568 27 พ.ย. 2567โรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567ด่วนที่สุด!! ที่ ศธ 04009/ว7543 เรื่อง การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 27 พ.ย. 2567สพฐ. กำชับเขตพื้นที่เร่งคลายทุกข์ลูกจ้าง เดินหน้าพาเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา พร้อมจัดงบประมาณแนวใหม่ตอบโจทย์นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” 26 พ.ย. 2567สพฐ. เข้ม สั่งครูล่วงละเมิดนักเรียนออกจากราชการทันที ย้ำดูแลสภาพจิตใจเด็กเป็นสำคัญ 26 พ.ย. 2567สพฐ.เล็งทำบัตรสุขภาพนักเรียนออนไลน์ 26 พ.ย. 2567ทำไมครูส่วนใหญ่ ไม่สนใจสมัครสอบเป็นศึกษานิเทศก์ 26 พ.ย. 2567ก.พ.ยังนิ่งปมทบทวนจ้างเหมาบริการ “ธนุ” ไม่รอแล้วสั่งทำสัญญาจ่ายเงิน ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง 25 พ.ย. 2567ล 1932/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

usericon

ชื่อผลงาน    รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
โดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562
ชื่อผู้รายงาน            นายอะห์หมัด สาและ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะจัน
ระยะเวลาดำเนินการ    ปีการศึกษา 2561 -2562
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562
มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2) ประเมินปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 3) ประเมินกระบวนการโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4) ประเมินผลผลิตโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้แก่ 4.1) ระดับคุณภาพของการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4.2) การมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4.3) ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านเกาะจัน 4.4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเกาะจัน และ 4.5) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาต่อ การดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้รูปแบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model)
การประเมินครั้งนี้ ศึกษาจากประชากร และกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยกลุ่มตัวอย่างนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 ทุกคนใช้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2561 จำนวน 107 คน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 92 คน ประชากรครู ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 17 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษา ปีการศึกษา 2561และ2562 จำนวน 7 คน (ยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษาและผู้แทนครู) และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 ทุกคน ได้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2561 จำนวน 83 คน
ปีการศึกษา 2562 จำนวน 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ มี 2 ลักษณะเป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 6 ฉบับ และแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง 2 ฉบับ ได้แก่ แบบบันทึกผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามสภาพจริง และแบบบันทึกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ตามสภาพจริง เครื่องมือทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง .867-.986 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง และการสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยใชโปรแกรมคอมสำเร็จรูป
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตาม กลุ่มผู้ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.36,
= 0.38) อยู่ในระดับมาก รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.24, = 0.38) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยความคิดสูงสุด ( = 4.76,
S.D. = 0.38) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมากลุ่มครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.68, = 0.38 ) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้
กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2
ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด เมื่อพิจารณาตามประเด็นตัวชี้วัด พบว่า
ปีการศึกษา 2561 ความพอเพียงของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (=4.61,  = 0.47) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ผู้สนับสนุนโครงการ (=4.45,  = 0.51) อยู่ในระดับมาก ส่วนความพอเพียงของวัสดุอุปกรณ์/อาคารสถานที่ (=4.35,  = 0.48) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 ความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (=4.76,  = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ผู้สนับสนุนโครงการ (=4.75, = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความพร้อมของบุคลากร (=4.67,  = 0.48) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
โดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.01, = 0.42) ) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.00, = 0.33) อยู่ในระดับมาก ส่วนผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =3.93, = 0.39) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.67, = 0.44) ) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.67, = 0.43) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.57, = 0.20) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่
4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 30 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมินพบว่า
ปีการศึกษา 2561 ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.14, S.D. = 0.39) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.12, S.D. = 0.39) อยู่ในระดับมาก ส่วนครูมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.11, = 0.52) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.68, = 0.39) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ย ( =4.66, S.D. = 0.42) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
( = 4.66, S.D. = 0.42) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน
4.2 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ทั้ง 4 กลุ่ม พบว่า
ปีการศึกษา 2561 นักเรียนมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.20, S.D. = 0.20) อยู่ในระดับมาก รองลงมาผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ย ( =4.19, S.D. = 0.37) อยู่ในระดับมาก ครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.03, = 0.61)
อยู่ในระดับมาก อยู่ในระดับมาก ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.01,
S.D. = 0.61) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.76,
S.D. = 0.43) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.74, = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.63, S.D. = 0.48) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.63, S.D. = 0.47) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน
4.3 ผลการประเมินข้อมูลสภาพจริงตามโครงการเกี่ยวกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านเกาะจันสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 พบว่า
ปีการศึกษา 2561 ภาพรวม มีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 14 คิดเป็นร้อยละ 9.52 และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบว่า นักเรียนติดเกม มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 4.08 รองลงมา คือ ลักขโมย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 3.40 ส่วนเป็นพฤติกรรมที่มีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุด คือ นักเรียนออกกลางคัน สูบบุหรี่/สารเสพติด และคบเพื่อนต่างเพศ จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0.00
ปีการศึกษา 2562 ภาพรวม มีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 7 คิดเป็นร้อยละ 5.18 และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบว่า นักเรียนติดเกม มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 2.96 รองลงมา คือ ลักขโมย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.48 ส่วนเป็นพฤติกรรมที่มีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุด คือ นักเรียนออกกลางคัน สูบบุหรี่/สารเสพติด และคบเพื่อนต่างเพศ จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0.00
สรุปผลจากข้อมูลด้านผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง ปีการศึกษา 2561 – 2562 แสดงให้เห็นว่า จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมนักเรียนที่ไม่พึงประสงค์ ลดลง 7 คน คิดเป็นร้อยละ 4.34 ตามเกณฑ์ที่กำหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ยร้อยละ 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.4 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับระดับคุณภาพของนักเรียน โรงเรียน
บ้านเกาะจัน ปีการศึกษา 2561 – 2562 ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่มีผลการประเมินระดับดีขึ้นไป โรงเรียนบ้านเกาะจัน หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2561 – 2562 พบว่า คุณลักษณะอันพึงประสงค์มีผล
การประเมินระดับดีขึ้นไป หลังการพัฒนา ทั้งสองปีการศึกษามีค่าเฉลี่ยร้อยละมากกว่า 90 ทั้ง 8 ประการ
โดยปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าปีการศึกษา 2561 ทั้ง 8 ประการ และเมื่อพิจารณาค่าพัฒนา พบว่า คุณลักษณะฯ ใฝ่เรียนรู้ มีค่าพัฒนาสูงสุด + 3.31 รองลงมาได้แก่ คุณลักษณะฯ รักความเป็นไทย
+ 3.11 ส่วนคุณลักษณะรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีค่าพัฒนาต่ำสุด
4.5 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ทั้ง 4 กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.33, = 0.50) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.29, S.D. = 0.44) อยู่ในระดับมาก ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.13, S.D. = 0.67) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 ครู มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.68, = 0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ย ( =4.66, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.61, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้
1.1 กิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อการนำข้อมูลนักเรียนมาใช้ในการคัดกรองนักเรียน และการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจึงควรดำเนินกิจกรรมนี้ต่อไป ทั้งนี้เป็นการสนองต่อนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย
1.2 โรงเรียนควรเพิ่มระยะเวลาในการเยี่ยมบ้านให้มากขึ้น เพื่อจะได้พบปะกับบิดา มารดา ผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลนักเรียนมากขึ้น
1.3 ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครูที่ดูแลนักเรียน เช่น นักเรียนได้รับรางวัลคุณธรรมดีเด่นจากการแข่งขัน หรือได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และชื่นชมยกย่องนักเรียนที่มีความประพฤติดีมีคุณธรรม อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้งต่อภาคเรียน
1.4 การประเมินโครงการในครั้งนี้ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ซึ่งเป็นรูปแบบการประเมินที่ครอบคลุมปัจจัยในการบริหารโครงการและสอดคล้องกับการประเมินทางการศึกษา สามารถนำรูปแบบการประเมินดังกล่าวนี้ไปใช้ประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนหรือโครงการอื่นๆได้
2. ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างละเอียดในแต่ละกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ส่งผลต่อผลสำเร็จของโครงการ
2.2 ควรใช้วิธีการและเครื่องมือในการประเมินอย่างหลากหลายเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองจากการประชุมผู้ปกครองนักเรียน เป็นต้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^