การใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงาน
ชื่อเรื่อง : การใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงาน
ของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้ศึกษาค้นคว้า : นางสาวจินตนา แก้วพรม
หลักสูตร : ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (รายวิชาชีพครู)
อาจารย์ที่ปรึกษา : อาจารย์ ดร.สุพัฒน์ เหล่าชัย
ปีการศึกษา : 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อเปรียบเทียบสมาธิก่อนและหลังใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนที่มีภาวะออทิสติกในห้องเรียนจิตวิทยา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 2 คน เป็นเด็กผู้ชาย 1 คน และเด็กผู้หญิง 1 คน ซึ่งมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา คือ ขาดสมาธิ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แผนการสอนโดยใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดและการเสริมแรงจำนวน 5 หน่วยแต่ละหน่วยประกอบไปด้วย กิจกรรมศิลปะ 5 กิจกรรม รวมทั้งสิ้น 25 กิจกรรม แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการมีสมาธิของนักเรียนที่มีภาวะออทิสติก ก่อน ระหว่าง และ หลังทำกิจกรรมศิลปะบำบัด สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และทดสอบสมมติฐานด้วยค่าสถิติการทดสอบค่าที (t-test dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียน ออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่านักเรียนที่ใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรง มีค่าเฉลี่ยระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำงานเฉลี่ยก่อนเรียน 11.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.28 คิดเป็นร้อยละ 23.2 และมีระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำงานเฉลี่ยหลังเรียน 42.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.28 คิดเป็นร้อยละ 85.2
2. ผลการเปรียบเทียบการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า มีผลระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำกิจกรรมก่อนเรียนเฉลี่ย ( = 11.6) หลังเรียนเฉลี่ย ( = 42.6) แสดงให้เห็นว่าผลระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำกิจกรรมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้ศึกษาค้นคว้า : นางสาวจินตนา แก้วพรม
หลักสูตร : ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (รายวิชาชีพครู)
อาจารย์ที่ปรึกษา : อาจารย์ ดร.สุพัฒน์ เหล่าชัย
ปีการศึกษา : 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อเปรียบเทียบสมาธิก่อนและหลังใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนที่มีภาวะออทิสติกในห้องเรียนจิตวิทยา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 2 คน เป็นเด็กผู้ชาย 1 คน และเด็กผู้หญิง 1 คน ซึ่งมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา คือ ขาดสมาธิ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แผนการสอนโดยใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดและการเสริมแรงจำนวน 5 หน่วยแต่ละหน่วยประกอบไปด้วย กิจกรรมศิลปะ 5 กิจกรรม รวมทั้งสิ้น 25 กิจกรรม แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการมีสมาธิของนักเรียนที่มีภาวะออทิสติก ก่อน ระหว่าง และ หลังทำกิจกรรมศิลปะบำบัด สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และทดสอบสมมติฐานด้วยค่าสถิติการทดสอบค่าที (t-test dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียน ออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่านักเรียนที่ใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรง มีค่าเฉลี่ยระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำงานเฉลี่ยก่อนเรียน 11.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.28 คิดเป็นร้อยละ 23.2 และมีระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำงานเฉลี่ยหลังเรียน 42.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.28 คิดเป็นร้อยละ 85.2
2. ผลการเปรียบเทียบการใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดร่วมกับการเสริมแรงเพื่อฝึกสมาธิในการทำงานของนักเรียนออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า มีผลระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำกิจกรรมก่อนเรียนเฉลี่ย ( = 11.6) หลังเรียนเฉลี่ย ( = 42.6) แสดงให้เห็นว่าผลระยะเวลาของการจดจ่อและมีสมาธิในการทำกิจกรรมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05