นวัตกรรมทางการศึกษา "การสร้างแบบฝึกทักษะกระบวนการเรียนรู้ทา
จากการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนต้องมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อันได้แก่ ทักษะการจำแนก ทักษะการพยากรณ์ ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล, จัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลงข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้ในการทำโครงงาน และจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทำให้ทราบว่า นักเรียนยังขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลายด้าน จึงเป็นผลทำให้ไม่สามารถคิดวิเคราะห์ข้อสอบ ซึ่งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นทักษะสำคัญที่แสดงถึงการมีกระบวนการคิด อย่างมีเหตุมีผลตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้นักเรียน เกิดความเข้าใจในเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ สามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองไปสู่กระบวนการคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น
จากผลการดำเนินงานพบว่าเมื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการเรียนวิทยาศาสตร์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 13 ทักษะของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนคำเที่ยงอนุสสรณ์ จำนวน 98 คนพบว่าคะแนนสอบหลังการใช้แบบฝึกทักษะจะสูงกว่าคะแนนก่อนการใช้แบบฝึกทักษะ และการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนได้คะแนนสอบเฉลี่ย 8.34 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน นับว่าเป็นคะแนนเฉลี่ยในระดับที่น่าพอใจ นักเรียนส่วนใหญ่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่าร้อยละ 70 แสดงว่าการใช้แบบฝึกทักษะที่ได้จัดทำขึ้นสามารถแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ ทั้งนี้เพราะเป็น การจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานจริง เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และใช้แบบฝึกทักษะให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น นักเรียนจึงเข้าใจในทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีจิตวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น และคะแนนในการประเมินความพึงพอใจในการใช้แบบฝึกทักษะสามารถแปลผลอยู่ในเกณฑ์มากที่สุด แสดงให้เห็นว่าในภาพรวมแล้วแบบฝึกทักษะเรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน
จากผลการดำเนินงานพบว่าเมื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการเรียนวิทยาศาสตร์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 13 ทักษะของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนคำเที่ยงอนุสสรณ์ จำนวน 98 คนพบว่าคะแนนสอบหลังการใช้แบบฝึกทักษะจะสูงกว่าคะแนนก่อนการใช้แบบฝึกทักษะ และการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนได้คะแนนสอบเฉลี่ย 8.34 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน นับว่าเป็นคะแนนเฉลี่ยในระดับที่น่าพอใจ นักเรียนส่วนใหญ่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่าร้อยละ 70 แสดงว่าการใช้แบบฝึกทักษะที่ได้จัดทำขึ้นสามารถแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ ทั้งนี้เพราะเป็น การจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานจริง เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และใช้แบบฝึกทักษะให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น นักเรียนจึงเข้าใจในทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีจิตวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น และคะแนนในการประเมินความพึงพอใจในการใช้แบบฝึกทักษะสามารถแปลผลอยู่ในเกณฑ์มากที่สุด แสดงให้เห็นว่าในภาพรวมแล้วแบบฝึกทักษะเรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน