การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ
ผู้ประเมิน นางสาวเบญจวรรณ แสงแก้ว ผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนบ้านซับเค้าแมว อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลพบุรี เขต 2
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ดำเนินการและผลการดำเนินการโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ และ 2) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวนทั้งสิ้น 43 คน สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยประยุกต์ใช้การประเมินโครงการตามรูปแบบ ซิป (CIPP MODEL) เป็นกรอบการประเมิน 4 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการดำเนินการ และด้านผลการดำเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ พบว่า ด้านบริบท หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ มีความสอดคล้องกับนโยบาย วิสัยทัศน์ และ เป้าหมายของโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ โดยรวมมีความสอดคล้องและเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านปัจจัยนำเข้า ความเหมาะสมและความเพียงพอของปัจจัยต่าง ๆ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยคือ 1) ด้านบุคลากร 2) ด้านทรัพยากร 3) ด้านบริหารจัดการ และ 4) ด้านงบประมาณ ด้านกระบวนการดำเนินการ กระบวนการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ มีการปฏิบัติและความเป็นจริงโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยเรียงจากลำดับมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านการวางแผน 2) ด้านการปรับปรุงแก้ไข 3) ด้านการตรวจสอบ และ 4) ด้านการดำเนินงาน ด้านผลการดำเนินการ ระดับความสำเร็จของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านโค้งรถไฟ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านพฤติกรรมการอ่าน และ2) ด้านกิจกรรม/โครงการ ในส่วนของระดับความพึงพอใจต่อผลการดำเนินโครงการโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านพฤติกรรมการอ่าน และ 2) ด้านกิจกรรม/โครงการ
และมีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ได้แก่ควรเพิ่มหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์ ควรเพิ่ม
คอมพิวเตอร์สําหรับใช้ในการสืบค้นข้อมูล ควรเพิ่มหนังสือสาระบันเทิงให้ชวนอ่านมากขึ้น ขอให้จัดหาหนังสือการ์ตูน และนิทาน เพิ่มให้มากขึ้น อยากให้จัดหนังสือใส่กระเป๋าเวียนไปตามห้องเรียนบ้าง
ควรมีระบบเตือนสำหรับผู้ที่ลืมคืนหนังสือที่ยืมไป ขอให้จัดทำตู้รับคืนหนังสือนอกเวลา และควรติดเครื่องปรับอากาศในห้องสมุดด้วย