โครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนมุ่งเน้นสมรรถนะผู้เรียน
รายงานผลการดำเนินงานโครงการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน 2) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนของครู วิทยาลัย
การอาชีพหนองหาน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) โดยทำวิจัยกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The One Group Pretest Posttest Design) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ครู วิทยาลัยการอาชีพหนอหาน จำนวน 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน จำนวน 1 ฉบับ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัย การอาชีพหนองหาน จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน พบว่า ก่อนการพัฒนา ครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 70.05)
2. ผลการเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนของครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน พบว่า หลังการพัฒนา ครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน
มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนหลังพัฒนา อยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 78.23) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย พบว่า ครูมีค่าเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา
3. ครูมีความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.53)
โดยมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ คือ การพัฒนาด้านการวัดและประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง ผู้บริหารอาจเชิญวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านการวัดผลการศึกษามาเพื่อให้ความรู้และเทคนิควิธีการโดยตรงตามหลักวิชา เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติและสามารถปฏิบัติได้อย่าง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การอาชีพหนองหาน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) โดยทำวิจัยกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The One Group Pretest Posttest Design) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ครู วิทยาลัยการอาชีพหนอหาน จำนวน 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน จำนวน 1 ฉบับ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัย การอาชีพหนองหาน จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน พบว่า ก่อนการพัฒนา ครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 70.05)
2. ผลการเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนของครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน พบว่า หลังการพัฒนา ครู วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน
มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนหลังพัฒนา อยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 78.23) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย พบว่า ครูมีค่าเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา
3. ครูมีความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาคุณภาพครูในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียน วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.53)
โดยมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ คือ การพัฒนาด้านการวัดและประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง ผู้บริหารอาจเชิญวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านการวัดผลการศึกษามาเพื่อให้ความรู้และเทคนิควิธีการโดยตรงตามหลักวิชา เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติและสามารถปฏิบัติได้อย่าง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น