ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษDelightful Ratchaburi
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน
โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวคริสตอล ประสานแสง
ปีที่ศึกษา ภาคเรียน 1/2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรอารีรักษ์ (มณีวิทยา) อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ที่ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบยกชั้น (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลในการวิจัยคือ 1.แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่าน 2. แบบวัดคุณลักษณะการเรียนรู้ด้วยตนเอง 3. แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจผู้เรียนหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (x) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษเรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเท่ากับ 82.57/83.82
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 3 ด้าน คือ ความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ด้านคุณลักษณะการเรียนด้วยตนเอง และด้านความรู้ความเข้าใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ทุกด้าน
4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผ่านทุกด้าน
โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวคริสตอล ประสานแสง
ปีที่ศึกษา ภาคเรียน 1/2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรอารีรักษ์ (มณีวิทยา) อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ที่ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบยกชั้น (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลในการวิจัยคือ 1.แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่าน 2. แบบวัดคุณลักษณะการเรียนรู้ด้วยตนเอง 3. แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจผู้เรียนหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (x) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษเรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเท่ากับ 82.57/83.82
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 3 ด้าน คือ ความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ด้านคุณลักษณะการเรียนด้วยตนเอง และด้านความรู้ความเข้าใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ทุกด้าน
4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Delightful Ratchaburi สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผ่านทุกด้าน