LASTEST NEWS

31 ก.ค. 2567สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รับสมัครพนักงานราชการ 18 อัตรา ตั้งแต่ 6-27 สิงหาคม 2567 31 ก.ค. 2567เมืองพัทยา รับสมัครพนักงานจ้าง จำนวน 178 ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2567  31 ก.ค. 2567มาแล้ว!! ลิงก์เว็บไซต์ตรวจสอบรายชื่อ และพิมพ์บัตรประจำตัว สอบใบประกอบวิชาชีพครู ครั้งที่ 2 ปี 2567 30 ก.ค. 2567โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 2-8 สิงหาคม 2567 30 ก.ค. 2567สพฐ.ผ่านการประเมิน ITA ปี 67 ได้คะแนนสูงสุดใน ศธ. 30 ก.ค. 2567สพฐ.มีหนังสือด่วนที่สุด ! แจ้งการโอนงบประมาณเหลือจ่ายฯ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นฯ สำหรับจ้างเหมาบริการนักการภารโรง คืนส่วนกลาง 30 ก.ค. 2567ร้อง"บิ๊กอุ้ม"-กมธ.สส.ยังยั้ง ศธ.ปรับหลักสูตร-อ้างครูฯลงชื่อคัดค้านเพียบ 30 ก.ค. 2567สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เปิดรับสมัครวุฒิปริญญาโททุกสาขา เงินเดือน 22,750 บาท ตั้งแต่บัดนี้-20 สิงหาคม 2567 29 ก.ค. 2567ชี้ครู 80% เริ่มเข้าใจการเรียนการสอนแบบ Active Learning 29 ก.ค. 2567โรงเรียนอนุบาลนางรอง(สังขกฤษณ์อนุสรณ์) รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 9,140 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ส.ค.2567

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ นางสาวโชติมา ไชยนิจ R&D

usericon

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
        
ผู้วิจัย นางสาวโชติมา ไชยนิจ ตำแหน่ง วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
     โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะ การอ่าน และการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการวิเคราะห์เอกสาร สัมภาษณ์ครูผู้สอน ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่า t
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ การอ่านและการเขียนภาษาไทย พบว่า ครูสอนแบบบรรยาย ขาดเทคนิคการสอน และขาดสื่อที่เร้าความสนใจ นักเรียนอ่านและจดบันทึกตามครู เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ปฏิบัติน้อย หลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ทฤษฎีการเรียนรู้ของไวกอทสกี ที่มีหลักการพื้นฐานคือ 1) ผู้เรียนเป็นผู้ที่ลงมือกระทำ (Active) และจะต้องมีส่วนในการเรียนรู้ 2) การเรียนรู้ทุกชนิดเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ถือว่าสังคมเป็นแหล่งสำคัญของการเรียนรู้ และพัฒนาเชาวน์ปัญญา 3) ผู้เรียนจะสามารถเรียนรู้ได้ดีและมากขึ้น ถ้าหากมีคนช่วย 4) ผู้เรียนทุกคนมี “The Zone of Proximal Development” หรือขอบเขตบริเวณความใกล้เคียงพัฒนาเชาวน์ปัญญาของผู้เรียน 5) การพูดอย่างรู้คิดภายในหรือการคิดในใจ (Inner Speech) มีความสำคัญในการเรียนรู้
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีชื่อว่า ARACC Model มีขั้นตอน การเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ขั้นเร้าความสนใจ (Attention : A) 2) ขั้นฝึกการอ่าน (Reading : R) 3) ขั้นลงมือทำกิจกรรม (Activity : A) 4) ขั้นสร้างความรู้ (Construction : C) และ 5) ขั้นสรุป (Conclusion : C) และผลการประเมินความถูกต้อง ครอบคลุม ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และมีประโยชน์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน
3. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.47/83.91 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
3.1 นักเรียนผลมีผลการทดสอบการอ่านภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
3.2 นักเรียนผลมีผลการทดสอบการเขียนภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
3.3 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎี ไวกอทสกี เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 2.62, S.D.= 0.17)

ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^