เผยแพร่ผลงานวิชาการ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์
ผู้วิจัย นางสุรัสวดี ชูชัย
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ 2) พัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ 4) ประเมินรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากนักเรียนทั้งหมด 3 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียน ครู ผู้บริหาร มีความต้องการใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์
2) การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นโดยนำเอาแนวคิดตามทฤษฎีกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยามาประยุกต์ เป็นรูปแบบการสอนใหม่ มีชื่อว่า “LUDCLC Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 ขั้นตอนได้แก่ 1)ขั้นกำหนดปัญหา(Location of problem) 2) ขั้นทำความเข้าใจปัญหา (Understanding the Problem) 3) ขั้นวางแผนแก้ปัญหา(Devising a Plan) 4) ขั้นดำเนินการตามแผน(Carrying out the Plan) 5) ขั้นตรวจสอบ(Looking Back)และ 6) ขั้นสรุป (Conclusion) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ด้านคณิตศาสตร์ ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องการให้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบรายบุคคล(Individual Tryout) เท่ากับ 78.67/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.67/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.67/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 34 คนได้ค่าประสิทธิ ภาพ E1 / E2 เท่ากับ 85.29/83.24 และทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ผลการประเมินรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ อยู่ในระดับมากที่สุด
เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์
ผู้วิจัย นางสุรัสวดี ชูชัย
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ 2) พัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ 4) ประเมินรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากนักเรียนทั้งหมด 3 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียน ครู ผู้บริหาร มีความต้องการใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์
2) การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นโดยนำเอาแนวคิดตามทฤษฎีกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยามาประยุกต์ เป็นรูปแบบการสอนใหม่ มีชื่อว่า “LUDCLC Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 ขั้นตอนได้แก่ 1)ขั้นกำหนดปัญหา(Location of problem) 2) ขั้นทำความเข้าใจปัญหา (Understanding the Problem) 3) ขั้นวางแผนแก้ปัญหา(Devising a Plan) 4) ขั้นดำเนินการตามแผน(Carrying out the Plan) 5) ขั้นตรวจสอบ(Looking Back)และ 6) ขั้นสรุป (Conclusion) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ด้านคณิตศาสตร์ ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องการให้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบรายบุคคล(Individual Tryout) เท่ากับ 78.67/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.67/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.67/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 34 คนได้ค่าประสิทธิ ภาพ E1 / E2 เท่ากับ 85.29/83.24 และทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าทักษะการแก้ปัญหา ของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ผลการประเมินรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ อยู่ในระดับมากที่สุด