เผยแพร่ผลงาน2 ครูวนิดา เอี่ยมโต
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย นางวนิดา เอี่ยมโต
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาเจตคติที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ4) ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ต่อการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณ และการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 / 1 จำนวน 26 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ วัดชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดเจตคติต่อการเรียนรู้ และแบบบันทึกพฤติกรรมรู้ การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยนำคะแนนระหว่างเรียน และหลังเรียน มาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (E1/E2) พร้อมทั้งสังเกตพฤติกรรมการเรียนและวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (x-bar ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การเรียนแบบร่วมมือหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 80
3. เจตคติต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT ในภาพรวมอยู่ระดับดีมากทั้งในด้านความสนใจและความสำคัญและด้านกิจกรรมกลุ่ม
4. พฤติกรรมทางการเรียนรู้ต่อการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมากโดยเฉพาะด้านกระบวนการกลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้แก่ การยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มความร่วมมือของสมาชิกในกลุ่ม และการปฏิบัติงานตามแผนและขั้นตอน
เรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย นางวนิดา เอี่ยมโต
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาเจตคติที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ4) ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ต่อการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณ และการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 / 1 จำนวน 26 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ วัดชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดเจตคติต่อการเรียนรู้ และแบบบันทึกพฤติกรรมรู้ การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยนำคะแนนระหว่างเรียน และหลังเรียน มาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (E1/E2) พร้อมทั้งสังเกตพฤติกรรมการเรียนและวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (x-bar ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT เรื่อง การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การเรียนแบบร่วมมือหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 80
3. เจตคติต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT ในภาพรวมอยู่ระดับดีมากทั้งในด้านความสนใจและความสำคัญและด้านกิจกรรมกลุ่ม
4. พฤติกรรมทางการเรียนรู้ต่อการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TGT ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมากโดยเฉพาะด้านกระบวนการกลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้แก่ การยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มความร่วมมือของสมาชิกในกลุ่ม และการปฏิบัติงานตามแผนและขั้นตอน