การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมี
อินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย สุวิทย์ สังสีแก้ว ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนซับนกแก้ววิทยา
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน
2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน และ 3) ประเมินประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอน การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นที่ 2 การพัฒนา ขั้นที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 แผนการเรียนวิทย์ - คณิต ของโรงเรียนซับนกแก้ววิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบ ความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบหลัก คือ หลักการและแนวคิด ของรูปแบบ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดผลและการประเมินผล กระบวนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นสังเกต (Observe: O) ขั้นเชื่อมโยงความสัมพันธ์ (Connect : C) ขั้นทำให้กระจ่าง (Clarification : C) ขั้นเสนอแนวคิด (Idea : I) ขั้นสรุปผล (Conclusion : C)
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน พบว่า ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน ให้คะแนนผลการตรวจสอบคุณภาพโดยภาพรวมในระดับเหมาะสมมากที่สุด และประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยการนำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน เท่ากับ 82.78/82.67 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการศึกษาประสิทธิผลของการรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับมาก
อินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย สุวิทย์ สังสีแก้ว ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนซับนกแก้ววิทยา
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน
2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน และ 3) ประเมินประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอน การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นที่ 2 การพัฒนา ขั้นที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 แผนการเรียนวิทย์ - คณิต ของโรงเรียนซับนกแก้ววิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบ ความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอน พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบหลัก คือ หลักการและแนวคิด ของรูปแบบ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดผลและการประเมินผล กระบวนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นสังเกต (Observe: O) ขั้นเชื่อมโยงความสัมพันธ์ (Connect : C) ขั้นทำให้กระจ่าง (Clarification : C) ขั้นเสนอแนวคิด (Idea : I) ขั้นสรุปผล (Conclusion : C)
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน พบว่า ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน ให้คะแนนผลการตรวจสอบคุณภาพโดยภาพรวมในระดับเหมาะสมมากที่สุด และประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยการนำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน เท่ากับ 82.78/82.67 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการศึกษาประสิทธิผลของการรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ OCCIC รายวิชาเคมีเพิ่มเติม (ว33225) เรื่อง เคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับมาก