การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL

ชื่อเรื่อง    การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL
เพื่อส่งเสริมคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางอารีย์ สัจจาพันธ์
    ครูชำนาญการพิเศษ
ระดับชั้น    ชั้นอนุบาลปีที่ 3
สถานศึกษา    โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา
อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ปีการศึกษา     2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง ทดสอบประสิทธิภาพ และเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL เพื่อส่งเสริมคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ขั้นการสร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL โดยการ สังเคราะห์รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ประกอบด้วย ขั้นการจัดประสบการณ์ 4 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างกิจกรรม ( A : Activity) ขั้นที่ 2 ขั้นร่วมกันอ่าน ( R : Read a story ) ขั้นที่ 3 ขั้นให้ประสบการณ์ ( E : Experience ) และขั้นที่ 4 ขั้นประเมินผล (E = Evaluation )
ทำการประเมินรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ทำแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ผลการประเมินรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 4.80 การสร้างเครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL คือ แผนการจัดประสบการณ์ หนังสือนิทาน แบบสังเกตพฤติกรรมการรับรู้คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ และแบบทดสอบการรับรู้คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ
ระยะที่ 2 ขั้นปรับปรุงคุณภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL โดยการทดลองนำร่องรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL โดยการทดลองสอนกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 29 คน ใช้ 2 หน่วยการเรียนรู้
ระยะที่ 3 ขั้นทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL เป็นการทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ทดลองใช้ 8 สัปดาห์ โดยกำหนดแบบแผนการทดลองแบบ Randomized Control-Group Pretest-Posttest Design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 27 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) สถิติใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ t-test for dependent samples ผลการทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา มีพฤติกรรมการรับรู้คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการเพิ่มขึ้น และมีผลสัมฤทธิ์การรับรู้คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทั้งรายด้าน 8 ด้าน และโดยรวม
ระยะที่ 4 ขั้นขยายผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL การเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL โดยครูอนุบาลที่ปฏิบัติงานสอนอยู่ในชั้นเรียนอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนละ 1 คน ในโรงเรียนกลุ่มเทศบาลนครยะลา จำนวน 6 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ที่สมัครใจนำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ไปทดลองใช้ จำนวน 2 หน่วยการเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดการสอนครูอนุบาลทุกคน ตอบแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ผลการเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ AREE MODEL ตามความคิดเห็นของครูอนุบาลที่ปฏิบัติงานสอนอยู่ในชั้นเรียนอนุบาลปีที่ 3 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 4.80

ร่วมแสดงความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

รายละเอียด