รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการ
ชื่องานวิจัย รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ผู้วิจัย นายอภิวรุณ โสมมา
ปีที่พิมพ์วิจัย 2563
การพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนา การจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) เพื่อปฏิบัติการและศึกษาผลการปฏิบัติการใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) เพื่อเปรียบเทียบระดับ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนก่อนและหลังปฏิบัติการใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ 4) เพื่อศึกษาบทเรียนการพัฒนาโรงเรียนผ่านรูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม ดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนและการยอมรับ จากชุมชนและสังคม การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การสร้างรูปแบบ การพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 2 การนำรูปแบบไปใช้ตามวงจรปฏิบัติการของ Kemmis & McTaggart ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การสังเกตผล และการสะท้อนผล ปฏิบัติการ 2 วงจร คือ วงจรที่ 1 ปีการศึกษา 2561-2562 และวงจรที่ 2 ปีการศึกษา 2562-2563 ระยะที่ 3 การประเมินผลการดำเนินการตามรูปแบบ และระยะที่ 4 การศึกษาบทเรียนการพัฒนา การจัดการศึกษาของโรงเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยผ่านรูปแบบการพัฒนา การจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนและการยอมรับจากชุมชนและสังคม
สรุปผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม โดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยกลยุทธ์ในการพัฒนา 4 กลยุทธ์ คือ 1) กลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพครู 2) กลยุทธ์การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 3) กลยุทธ์การสร้างศรัทธา และ 4) กลยุทธ์ความเป็นหุ้นส่วน
2. ผลการดำเนินการตามกลยุทธ์ผ่านรูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจำนวน 13 โครงการ พบว่าผลการดำเนินโครงการในวงจรที่ 1 ทั้ง 13 โครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกโครงการ และในวงจรที่ 2 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากและมากที่สุด และมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่าวงจร ที่ 1 ทุกโครงการ
3. ผลการศึกษาการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน ในด้านต่าง ๆ 4 ด้าน พบว่า ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าเฉลี่ยแต่ละด้านที่เพิ่มขึ้น ทุกด้าน
4. ผลการการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนและการยอมรับจากชุมชน และสังคม พบว่านักเรียนกล้าคิด กล้าถาม กล้าแสดงออกมากขึ้น มีแรงบันดาลใจในการเรียน เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีสัมมาคารวะ เกิดทักษะการเรียนรู้ สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาตนเอง จัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ใช้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนวิชาชีพ (PLC) สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในโรงเรียน เอื้อต่อการเรียนรู้ ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ผู้ปกครองมีความตระหนัก และเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษามากขึ้น ผลการศึกษาขวัญกำลังใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า มีเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้อง พบว่า ความพึงพอใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด