การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยบูรณาการ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยบูรณาการกับทฤษฎี
การเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย สวนีย์ กันสุธา
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาและพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนนครระยองวิทยาคม (วัดโขดใต้) ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐาน แบบสัมภาษณ์ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ ความถี่ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีทักษะชีวิต ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
2. การเรียนรู้ทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าโดยภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.58 , S.D. = 0.66)
การเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย สวนีย์ กันสุธา
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาและพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนนครระยองวิทยาคม (วัดโขดใต้) ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐาน แบบสัมภาษณ์ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ ความถี่ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีทักษะชีวิต ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
2. การเรียนรู้ทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าโดยภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.58 , S.D. = 0.66)