การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.3
ทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์
เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่3
ผู้วิจัย นางสาววรารัตน์ อิสมาแอล
สถานศึกษา โรงเรียนระดิ่งหินประชาสรรค์ ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มุ่งให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีพัฒนาการตามจุดประสงค์การเรียนรูปที่แตกต่างกันในหลาย ๆ ด้านพร้อม ๆ กัน ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้าน ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ 4) ศึกษาเจตคติต่อการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม ด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 34 คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนระดิ่งหินประชาสรรค์ อำเภอบางบัวทอง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่า ความเหมาะสมระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.57, S.D.= 0.47) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.64 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 3) แบบประเมินทักษะปฏิบัติ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.77 ถึง 0.85 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 และ 4) แบบวัดเจตคติต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.32 ถึง 0.87 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.75 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ 1) แนวคิด และทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรูปมี 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นการเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นการเลียนแบบ ขั้นที่ 3 ขั้นการลงมือกระทำตามคำสั่ง ขั้นที่ 4 ขั้นการกระทำอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ขั้นที่ 5 ขั้นการแสดงออก ขั้นที่ 6 ขั้นการปรับปรุงและประยุกต์ใช้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) ระบบสนับสนุน
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.27/85.76 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.5647 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้า คิดเป็นร้อยละ 56.47 ทักษะปฏิบัติของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ที่ได้เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อยู่ในระดับเกณฑ์คุณภาพดี โดยรวมมีค่าเฉลี่ย (x ̅ = 10.32, S.D. = 2.69)
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีเจตคติต่อการเรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x ̅ = 2.52, S.D. = 0.58)
โดยสรุป การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านทักษะปฏิบัติตามแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันและแฮร์โรว์ เรื่อง งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพที่เหมาะสม ช่วยให้นักเรียนมีความสามารถทางด้านทักษะปฏิบัติ ดังนั้น จึงควรนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นอื่น ๆ ต่อไป