รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียน
ผู้วิจัย กาญจนา จันทมัตตุการ
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) (PIER Model) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียน 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) 4) เพื่อประเมินการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) มีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู ซึ่งขั้นตอนที่ 1 ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การศึกษาสภาพการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) ซึ่งขั้นตอนที่ 2 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การยกร่างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการตรวจสอบคุณภาพร่างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู ซึ่งขั้นตอนที่ 4 ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การประเมินผลการใช้รูปแบบ การประเมินผล การบันทึกติดตามการดำเนินงาน และการประเมินผลสะท้อนการใช้รูปแบบ โดยประยุกต์ใช้เทคนิควิธีการวิจัยผสานวิธี (Mixed-method) เพื่อยืนยันผลการวิจัย
ผลการศึกษาขั้นตอนที่ 1 ผลการศึกษาการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู พบว่า การสร้างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ได้องค์ประกอบ 3 ด้าน คือ ทักษะการคิดวิเคราะห์ วิธีการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนที่ 2 ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู โดยประยุกต์ใช้หลักการบริหารตามแนวคิด 7’s McKinsey และการบริหารคุณภาพ วงจรเดมมิ่ง (Deming cycle) ในการสร้างรูปแบบ ในการตรวจสอบหาคุณภาพ โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ร่างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู ได้มีการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ จนมีความเหมาะสมก่อนนำไปทดลองใช้จริง ขั้นตอนที่ 3 ผลการทดลองใช้รูปแบบ ซึ่งขั้นตอนที่ 3 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ผลการจัดทำคู่มือการดำเนินงานตามรูปแบบ พบว่า ผู้วิจัย กลุ่มตัวอย่างและทีมงานวิชาการของโรงเรียนสามารถใช้คู่มือเป็นกรอบการดำเนินการในขั้นตอนการทดลองใช้รูปแบบได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ และผลการทดลองใช้รูปแบบจากการบันทึกติดตามการดำเนินงานในการบริหารรูปแบบ พบว่า โรงเรียนมีการบริหารรูปแบบโดยวางระบบบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูกลุ่มตัวอย่าง โดยสร้างทีมวิชาการของโรงเรียนทำหน้าที่ติดตาม ให้คำแนะนำช่วยเหลือในกิจกรรมพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ของครู ตลอดระยะเวลาการทดลอง พร้อมรายงานผลเพื่อบันทึกกิจกรรม สภาพการดำเนินงานและการเปลี่ยนแปลงของครูที่เกิดขึ้นตามสภาพจริง ขั้นตอนที่ 4 ผลการประเมิน การใช้รูปแบบ จากการประเมินโดยกลุ่มตัวอย่าง ครูจำนวน 48 คน พบว่า ครูมีความคิดเห็นต่อการใช้รูปแบบในด้านองค์ประกอบที่ 1 การบริหาร องค์ประกอบที่ 2 วิธีการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู องค์ประกอบที่ 3 ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดีมาก (x ̅ = 4.21) จากการประเมินผลการบันทึกติดตามการดำเนินงาน ซึ่งติดตามโดยทีมงานวิชาการ พบว่า รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครู ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูสูงขึ้น และจากการประเมินผลสะท้อนการใช้รูปแบบโดยการวัดความสามารถการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนกับครูกลุ่มตัวอย่างระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบที (T-Test) พบว่า คะแนนผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จากการประเมินทั้งสามแหล่งข้อมูล ผลการประเมินสามารถยืนยันได้ว่ารูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของครูในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจริง