เผยแพร่ประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนบ้านทุ่งโป่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 โดยใช้การประเมินเชิงระบบแบบ CIPPIEST Model
ผลการประเมินโครงการ
1) กลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นด้านบริบท โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดและสอดคล้องกันทั้งหมดทั้งวัตถุประสงค์เป้าหมายของโครงการ ความต้องการคาดหวังต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน นโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา และนโยบายการศึกษาของโรงเรียน 2) ความคิดเห็นด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวม
มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ได้แก่ความเพียงพอเหมาะสม
ของทรัพยากรที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ เช่น งบประมาณ บุคลาการ วัสดุอุปกรณ์ และรูปแบบกิจกรรม 3) ความคิดเห็นด้านกระบวนการโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกันทั้งหมด ได้แก่ การประเมินการบริหาร การวางแผน การดำเนินงานตามกิจกรรม การนิเทศติดตาม
ผลการดำเนินงาน การประเมิน และการปรับปรุงแก้ไข 4) ด้านผลผลิต พบว่า 4.1) ด้านผลสัมฤทธิ์ของโครงการ นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นักเรียนนำความรู้จากการอ่านไปใช้
ในชีวิตประจำวัน นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน ตามลำดับ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4.2) ความคิดเห็นด้านผลกระทบของโครงการโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด สอดคล้องกับการประเมินการบริหารโครงการ นักเรียนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก นักเรียนรู้จัก
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการอ่านกับนักเรียนมีความสุข การเข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และนักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง ตามลำดับ 4.3) ความคิดเห็นด้านประสิทธิผลต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มี
ผลการประเมินสูงสุดคือผู้ปกครองมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ตามกระบวนการอ่านของเด็ก มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.4) ความคิดเห็นด้านความยั่งยืนโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีผลการประเมินสูงสุดคือครูผู้สอนพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินโครงการเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จต่อไป ครูผู้สอนพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินโครงการเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จต่อไป และโครงการควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป 4.5) ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ
ของโครงการ พบว่าพบว่า ผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีผลการประเมินสูงสุดคือ ครูผู้สอนแจ้งข่าวสารการจัดกิจกรรมโครงการให้ผู้ปกครองได้รับทราบ และผู้ปกครองนำหลักการของโครงการ ที่ได้เรียนรู้ไปส่งเสริมสนับสนุนเด็ก
ที่บ้าน 4.6) ผลการประเมินความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อการโครงการส่งเสริมนิสัย
รักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง พบว่าทั้งภาพรวมและรายข้อ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด มีความคิดเห็นสอดคล้องกันทั้งหมด ทำให้เห็นประโยชน์และความสำคัญต่อการอ่านมากขึ้น
ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการเรียนรู้มากขึ้น นักเรียนสามารถนำทักษะการอ่านไปใช้ประโยชน์
ในการเรียน นักเรียนมีความสามารถในการเรียนเพิ่มขึ้น ตามลำดับ 4.7) การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมในโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน พบว่าผลการประเมิน
ความพึงพอใจของนักเรียนทั้งภาพรวมของกิจกรรมและรายกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กิจกรรมขุมทรัพย์ทางปัญญาพากันอ่าน รองลงมา กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ และกิจกรรมจัดบรรยากาศให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ 4.8) ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า หลังดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านสูงกว่าก่อนดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ระดับ .05
ผลการประเมินโครงการ
1) กลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นด้านบริบท โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดและสอดคล้องกันทั้งหมดทั้งวัตถุประสงค์เป้าหมายของโครงการ ความต้องการคาดหวังต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน นโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา และนโยบายการศึกษาของโรงเรียน 2) ความคิดเห็นด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวม
มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ได้แก่ความเพียงพอเหมาะสม
ของทรัพยากรที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ เช่น งบประมาณ บุคลาการ วัสดุอุปกรณ์ และรูปแบบกิจกรรม 3) ความคิดเห็นด้านกระบวนการโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกันทั้งหมด ได้แก่ การประเมินการบริหาร การวางแผน การดำเนินงานตามกิจกรรม การนิเทศติดตาม
ผลการดำเนินงาน การประเมิน และการปรับปรุงแก้ไข 4) ด้านผลผลิต พบว่า 4.1) ด้านผลสัมฤทธิ์ของโครงการ นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นักเรียนนำความรู้จากการอ่านไปใช้
ในชีวิตประจำวัน นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน ตามลำดับ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4.2) ความคิดเห็นด้านผลกระทบของโครงการโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด สอดคล้องกับการประเมินการบริหารโครงการ นักเรียนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก นักเรียนรู้จัก
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการอ่านกับนักเรียนมีความสุข การเข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และนักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง ตามลำดับ 4.3) ความคิดเห็นด้านประสิทธิผลต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มี
ผลการประเมินสูงสุดคือผู้ปกครองมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ตามกระบวนการอ่านของเด็ก มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.4) ความคิดเห็นด้านความยั่งยืนโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีผลการประเมินสูงสุดคือครูผู้สอนพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินโครงการเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จต่อไป ครูผู้สอนพร้อมให้ความร่วมมือดำเนินโครงการเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จต่อไป และโครงการควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป 4.5) ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ
ของโครงการ พบว่าพบว่า ผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีผลการประเมินสูงสุดคือ ครูผู้สอนแจ้งข่าวสารการจัดกิจกรรมโครงการให้ผู้ปกครองได้รับทราบ และผู้ปกครองนำหลักการของโครงการ ที่ได้เรียนรู้ไปส่งเสริมสนับสนุนเด็ก
ที่บ้าน 4.6) ผลการประเมินความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อการโครงการส่งเสริมนิสัย
รักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง พบว่าทั้งภาพรวมและรายข้อ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด มีความคิดเห็นสอดคล้องกันทั้งหมด ทำให้เห็นประโยชน์และความสำคัญต่อการอ่านมากขึ้น
ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการเรียนรู้มากขึ้น นักเรียนสามารถนำทักษะการอ่านไปใช้ประโยชน์
ในการเรียน นักเรียนมีความสามารถในการเรียนเพิ่มขึ้น ตามลำดับ 4.7) การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมในโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน พบว่าผลการประเมิน
ความพึงพอใจของนักเรียนทั้งภาพรวมของกิจกรรมและรายกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กิจกรรมขุมทรัพย์ทางปัญญาพากันอ่าน รองลงมา กิจกรรมภาษาไทยวันละคำ และกิจกรรมจัดบรรยากาศให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ 4.8) ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า หลังดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านสูงกว่าก่อนดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ระดับ .05