การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS
ชื่อผู้ศึกษา นายเกรียงไกร ราวิชัย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
ปีที่รายงาน 2562
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง (2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และดัชนีประสิทธิผล 0.5 (3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง และ (4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ งานวิจัยนี้ได้ดำเนินการตามระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 1 คน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 43 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 23 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย ด้วยวิธีการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบบันทึก แบบสัมภาษณ์ สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ คู่มือการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ แบบประเมินความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าประสิทธิภาพ ( / ) ค่าดัชนีประสิทธิผล ( ) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) และค่า t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง คือ นักเรียนขาดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยมีสาเหตุมาจากเนื้อหาวิชาที่ยากต่อการสอนของครู และการทำความเข้าใจของนักเรียนที่แต่ละคนมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน รวมทั้งขาดสื่อประกอบการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและท้องถิ่นของนักเรียน ผู้วิจัยจึงได้หาแนวทางแก้ปัญหาโดยพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง
2. การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ทำให้ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนอ่านเพื่อความเข้าใจ เกิดเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 จุดพลังสมอง (Connecting) ขั้นตอนที่ 2 ตรองด้วยความมั่นใจ (Empowering) ขั้นตอนที่ 3 ไขความลับการเรียนรู้ (Secret Finding) ขั้นตอนที่ 4 เปิดประตูข้อมูลหลากหลาย (Topping up data) และขั้นตอนที่ 5 จุดประกายความคิดองค์รวม (Summary of knowledge) ปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน ใช้เวลาเรียน 20 ชั่วโมง ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญ อยู่ระหว่าง 0.8-1.0 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 91.09/87.50 และดัชนีประสิทธิผล 0.7386
3. การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ทำให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ CESTS ชุด The Amazing Things Around Me เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.69, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.12)