การพัฒนานวัตกรรมประเภทสไลด์คอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมประเภทสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองโพธิ์ชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองโพธิ์ชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบแสดงความคิดเห็น แบบฝึกปฏิบัติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพ คือ 82.08/82.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
๒. ผลการวิเคราะห์ความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน พบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน จากการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามจำนวน 24 คน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
๓. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน โดยภาพรวมในระดับเห็นด้วยมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อทั้ง 10 ข้อ พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสไลด์คอมพิวเตอร์ ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด 2 ข้อคำถาม โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ สไลด์คอมพิวเตอร์ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาสาระ เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน มากขึ้น รองลงมาคือ แบบทดสอบหลังเรียนช่วยให้นักเรียนได้รู้ความก้าวหน้าทางการเรียน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ สไลด์คอมพิวเตอร์ช่วยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในการเรียนมากยิ่งขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองโพธิ์ชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบแสดงความคิดเห็น แบบฝึกปฏิบัติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพ คือ 82.08/82.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
๒. ผลการวิเคราะห์ความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน พบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน จากการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามจำนวน 24 คน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
๓. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อสไลด์คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน โดยภาพรวมในระดับเห็นด้วยมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อทั้ง 10 ข้อ พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสไลด์คอมพิวเตอร์ ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด 2 ข้อคำถาม โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ สไลด์คอมพิวเตอร์ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาสาระ เรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน มากขึ้น รองลงมาคือ แบบทดสอบหลังเรียนช่วยให้นักเรียนได้รู้ความก้าวหน้าทางการเรียน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ สไลด์คอมพิวเตอร์ช่วยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในการเรียนมากยิ่งขึ้น