รายงานผลการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
ชื่อเรื่อง รายงานผลการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต
วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนอนุบาลเทศบาล
ตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้วิจัย นางสาวพรรณทิพย์ บุญสินพร้อม ตำแหน่งครูชำนาญการ
โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้จึงมีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา
ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา
ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะ ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลเทศบาล
ตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 21 คน ซึ่งได้มาโดย
การเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 แผน ใช้เวลาทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ฉบับ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ .44 - .71 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .41 - .94
ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .98 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียน เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .37 - .77 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
การทดสอบสมมติฐานใช้ t - test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.83/83.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.7349 หรือคิดเป็นร้อยละ 73.49
3. นักเรียนที่ได้เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p<.05)
4. นักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด
วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนอนุบาลเทศบาล
ตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้วิจัย นางสาวพรรณทิพย์ บุญสินพร้อม ตำแหน่งครูชำนาญการ
โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้จึงมีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา
ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา
ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะ ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลเทศบาล
ตำบลเชียงใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 21 คน ซึ่งได้มาโดย
การเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 แผน ใช้เวลาทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ฉบับ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ .44 - .71 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .41 - .94
ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .98 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียน เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ( ) ตั้งแต่ .37 - .77 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
การทดสอบสมมติฐานใช้ t - test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.83/83.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.7349 หรือคิดเป็นร้อยละ 73.49
3. นักเรียนที่ได้เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p<.05)
4. นักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ศาสนากับการดำรงชีวิต วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส15101 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด