การพัฒนาเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
เรื่อง การพัฒนาเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ
ผู้ศึกษา นางวณิชชา ประมาณ
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางด้านคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการทำกิจกรรม และเพื่อให้ทราบถึงความพึงพอใจของเด็กที่มีต่อเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กปฐมวัย อายุระหว่าง 5-6 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ สังกัด เทศบาลตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 31 คน โดยการจัดประสบการณ์ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยบูรณาการเข้ากับหน่วยการเรียนรู้ในกิจกรรมเกมการศึกษาให้เด็กทำกิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 10 หน่วย เป็นเวลา 10 สัปดาห์สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ 1) เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เกี่ยวกับการนับค่าจำนวน 1-20 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 30 เกม 2) แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กที่ทำกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ในครั้งนี้ ได้แก่ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ สถิติ t-test แบบ dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. การหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย พบว่า ประสิทธิภาพของเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.60/85.62 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ความสามารถด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย หลังการทำกิจกรรม สูงกว่าก่อนทำกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ศึกษาความพึงพอใจของเด็กที่มีต่อการทำกิจกรรมเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวมทุกด้านเท่ากับ 2.98 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.15
ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ
ผู้ศึกษา นางวณิชชา ประมาณ
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางด้านคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการทำกิจกรรม และเพื่อให้ทราบถึงความพึงพอใจของเด็กที่มีต่อเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กปฐมวัย อายุระหว่าง 5-6 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาลแม่เมาะ สังกัด เทศบาลตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 31 คน โดยการจัดประสบการณ์ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยบูรณาการเข้ากับหน่วยการเรียนรู้ในกิจกรรมเกมการศึกษาให้เด็กทำกิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 10 หน่วย เป็นเวลา 10 สัปดาห์สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ 1) เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เกี่ยวกับการนับค่าจำนวน 1-20 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 30 เกม 2) แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กที่ทำกิจกรรมโดยใช้เกมการศึกษาด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ในครั้งนี้ ได้แก่ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ สถิติ t-test แบบ dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. การหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย พบว่า ประสิทธิภาพของเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.60/85.62 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ความสามารถด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย หลังการทำกิจกรรม สูงกว่าก่อนทำกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ศึกษาความพึงพอใจของเด็กที่มีต่อการทำกิจกรรมเกมการศึกษา ด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวมทุกด้านเท่ากับ 2.98 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.15