การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ โดยใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย สิริวิมล รุ่งเรือง
ปีที่วิจัย 2558
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ทางภาษาไปใช้ในการสื่อสารความหมาย ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนพอกพิทยาคม รัชมังคลาภิเษก อำเภอปรางค์xxx่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Clustered Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 แบบฝึก เวลาทดลองสอนจำนวน 12 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เป็นแบบทดสอบ แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.35-0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.21-0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.414 ถึง 0.776 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.864 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) และสถิติทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระกัน
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.78/77.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34
ผู้วิจัย สิริวิมล รุ่งเรือง
ปีที่วิจัย 2558
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ทางภาษาไปใช้ในการสื่อสารความหมาย ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนพอกพิทยาคม รัชมังคลาภิเษก อำเภอปรางค์xxx่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Clustered Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 แบบฝึก เวลาทดลองสอนจำนวน 12 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เป็นแบบทดสอบ แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.35-0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.21-0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.414 ถึง 0.776 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.864 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) และสถิติทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระกัน
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.78/77.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความสำคัญ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34