การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ส่งเสริมการคิด
การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 4) เพื่อศึกษาความสามารถในการทำงานเป็นทีมของนักเรียน โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ตามแนวคิดของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2546) ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 ด้าน คือ (1) ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) (2) ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) (3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) (4) ขั้นขยายความรู้ (elaboration) และ (5) ขั้นประเมิน (evaluation) ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 4 ห้องเรียน รวมจำนวนประชากรทั้งสิ้น 135 คน กลุ่มตัวอย่าง นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) สังกัดเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบ่งเป็น 2 ส่วน จำแนกเป็น (1) เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมารวมทั้งสิ้น 4 แผน 14 คาบเรียน คาบเรียนละ 1 ชั่วโมง (2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แบบสอบถามการทำงานเป็นทีม และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ได้แก่ระดับการใช้ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ผลปรากฏดังนี้
จากผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าโดยรวมมีประสิทธิภาพ 88.02 / 85.41 สูงกว่าเกณฑ์กำหนดไว้ และเมื่อพิจารณาตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเรียงลำดับจากประสิทธิภาพมากไปหาน้อย พบว่า แผนจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การนำเสนอข้อมูลสารสนเทศและใช้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ 88.87 / 86.45 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย มีประสิทธิภาพ 87.90 / 84.84 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพ 87.58 / 85.81 และแผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องอัลกอริทีมและการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ มีประสิทธิภาพ 87.74 / 84.52
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความสามารถในการทำงานเป็นทีมของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.67 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีระดับพฤติกรรมการปฏิบัติมากที่สุด เช่นเดียวกัน มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.56 - 4.76
5. ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาพบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.70 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อนักเรียน มีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.42 – 4.97
จากผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าโดยรวมมีประสิทธิภาพ 88.02 / 85.41 สูงกว่าเกณฑ์กำหนดไว้ และเมื่อพิจารณาตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเรียงลำดับจากประสิทธิภาพมากไปหาน้อย พบว่า แผนจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การนำเสนอข้อมูลสารสนเทศและใช้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ 88.87 / 86.45 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย มีประสิทธิภาพ 87.90 / 84.84 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพ 87.58 / 85.81 และแผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องอัลกอริทีมและการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ มีประสิทธิภาพ 87.74 / 84.52
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความสามารถในการทำงานเป็นทีมของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.67 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีระดับพฤติกรรมการปฏิบัติมากที่สุด เช่นเดียวกัน มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.56 - 4.76
5. ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม รายวิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาพบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.70 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อนักเรียน มีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.42 – 4.97