การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง
โดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ
รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย เพลินจันทร์ ปฐมศิริกุล
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอน ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียน การสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3.2) เพื่อศึกษาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 30 คน และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 60 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 1 ฉบับ ชุดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น จำนวน 9 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความสามารถในการคิดสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample) ผู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ ดังนี้
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า แนวคิดทฤษฎีที่มีความเหมาะสมในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ได้แก่ แนวคิดทฤษฏีสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructive) แนวคิดทฤษฏีการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ทฤษฏีการคิดสร้างสรรค์และแนวคิดเกี่ยวกับความพอเพียง
2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า AOMIAEC Model (เอโอมิเออีซี โมเดล) ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 Anticipatory Set (A) คือ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 2 Objective and Purposes (O) คือ ขั้นแจ้งหรือบอกวัตถุประสงค์การเรียนรู้และเป้าหมาย ขั้นที่ 3 Modeling (M) คือ ขั้นเสนอรูปแบบหรือกิจกรรมเนื้อหาใหม่ ขั้นที่ 4 Independent and Guided practice (I) คือ ขั้นฝึกปฏิบัติโดยอิสระและการชี้แนะ ขั้นที่ 5 Analytical outcomes (A) คือ ขั้นวิเคราะห์ผลงาน ขั้นที่ 6 Extended practice (E) คือ ขั้นพัฒนาทักษะขั้นที่ 7 Concluding from Experience (C) คือ ขั้นสรุปและประเมินผลสรุปผลการเรียนรู้ และมีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.28/84.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบ การเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี การสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และทักษะอาชีพ รายวิชางานประดิษฐ์ เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวม อยู่ในระดับพึงพอใจมาก