การพัฒนากิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม
สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี)
ผู้วิจัย นางจิรประภา บุญสนิท
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1).พัฒนากิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์.80/80. 2).เปรียบเทียบพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน.3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน 4) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4.ปี).ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนปันแต สังกัดกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561.จำนวน.17.คน ซึ่งได้จากการเลือกเจาะจง (Purposive..Sampling) ที่ผู้วิจัยเป็นครูประจำชั้นโดยใช้รูปแบบทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One-Group..Pre-test..Post-test..Design).เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).จำนวน 1 เล่ม 30 กิจกรรม2) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).จำนวน 30 แผน สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 40 นาที รวมเวลา 10 สัปดาห์ 3) แบบทดสอบวัดพัฒนาการทางสังคม จำนวน 15 ข้อ 4) แบบสังเกตพัฒนาการด้านสังคม 5) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย ( )ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1.กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).มีประสิทธิภาพ 83.68/82.75
2..พัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ.3-4.ปี).ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3..ดัชนีประสิทธิผลของพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี) ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน มีค่าเท่ากับ 0.6535 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 65.35
4..ความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี)
ผู้วิจัย นางจิรประภา บุญสนิท
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1).พัฒนากิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์.80/80. 2).เปรียบเทียบพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน.3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน 4) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4.ปี).ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนปันแต สังกัดกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561.จำนวน.17.คน ซึ่งได้จากการเลือกเจาะจง (Purposive..Sampling) ที่ผู้วิจัยเป็นครูประจำชั้นโดยใช้รูปแบบทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One-Group..Pre-test..Post-test..Design).เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).จำนวน 1 เล่ม 30 กิจกรรม2) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).จำนวน 30 แผน สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 40 นาที รวมเวลา 10 สัปดาห์ 3) แบบทดสอบวัดพัฒนาการทางสังคม จำนวน 15 ข้อ 4) แบบสังเกตพัฒนาการด้านสังคม 5) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย ( )ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1.กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม.สำหรับเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี).มีประสิทธิภาพ 83.68/82.75
2..พัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ.3-4.ปี).ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3..ดัชนีประสิทธิผลของพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัย.(อายุ 3-4 ปี) ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน มีค่าเท่ากับ 0.6535 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 65.35
4..ความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก