การพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอน โดยใช้กิจกรรม
ชื่อเรื่อง การพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอน
โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานที่เน้นการคิดอย่างมีจิตวิญญาณ
ผู้วิจัย นางอรทิพา เกตุมะยูร
ปีที่วิจัย 2562
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร)
เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพครูโรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรสายปฏิบัติการสอน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 14 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 154 คน ประกอบด้วยวิทยากร 1 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 153 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบ จำนวน 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ แบบสังเกต จำนวน 2 ฉบับ และแบบประเมิน จำนวน 1 ฉบับ ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ การพรรณนาวิเคราะห์
สรุปการพัฒนาวงรอบที่ 1 จากการใช้กลยุทธ์การศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การนิเทศแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามกรอบการวิจัย เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้และนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ จากการดำเนินการพบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจในด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานมากขึ้น และสามารถนำความรู้ไปจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้ดีในบางส่วนแต่มีบางประเด็นกลุ่มเป้าหมายบางคนยังมีข้อบกพร่อง ที่ต้องทำการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องเหมาะสม จึงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบมีส่วนร่วม อย่างต่อเนื่องสามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ ในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อนักเรียนทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
โดยสรุป ผลรูปแบบการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา จากการใช้กลยุทธ์ การศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม หลังจากดำเนินการพัฒนาการตามกลยุทธ์ทั้ง 2 วงรอบทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้ตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ที่กำหนดไว้จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานอย่างต่อเนื่อง และขยายผลสู่โรงเรียนอื่นๆ ต่อไป
โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานที่เน้นการคิดอย่างมีจิตวิญญาณ
ผู้วิจัย นางอรทิพา เกตุมะยูร
ปีที่วิจัย 2562
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร)
เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพครูโรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรสายปฏิบัติการสอน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 14 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 154 คน ประกอบด้วยวิทยากร 1 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 153 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบ จำนวน 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ แบบสังเกต จำนวน 2 ฉบับ และแบบประเมิน จำนวน 1 ฉบับ ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ การพรรณนาวิเคราะห์
สรุปการพัฒนาวงรอบที่ 1 จากการใช้กลยุทธ์การศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การนิเทศแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามกรอบการวิจัย เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้และนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ จากการดำเนินการพบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจในด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานมากขึ้น และสามารถนำความรู้ไปจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้ดีในบางส่วนแต่มีบางประเด็นกลุ่มเป้าหมายบางคนยังมีข้อบกพร่อง ที่ต้องทำการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องเหมาะสม จึงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบมีส่วนร่วม อย่างต่อเนื่องสามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ ในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อนักเรียนทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
โดยสรุป ผลรูปแบบการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเทศบาล ๒ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางxxxร) เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา จากการใช้กลยุทธ์ การศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม หลังจากดำเนินการพัฒนาการตามกลยุทธ์ทั้ง 2 วงรอบทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้ตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ที่กำหนดไว้จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานอย่างต่อเนื่อง และขยายผลสู่โรงเรียนอื่นๆ ต่อไป