ผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) พัฒนาการเรียนการสอนเรื่อ
ผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) พัฒนาการเรียนการสอนเรื่อง การป็องกันการทุจริต วิชาเพึ๋มเติม (ส 21203) ชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่ 1 โรงเรียน เทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน : นางสาวพรนิชา เลสัก : ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ : พ.ศ. 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1)สร้างและหาประสิทธิภาพของ บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)Oองการป็องสันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน 2)เปรียบเทียบผลสัมถุทธี้ทางการเรียนก่อนและ หลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการป็องสันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203) ชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่1โรงเรืยนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน และร)ศึกษาความพึงพอใจของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ที่มีต่อการเรียนเรื่องการป็องสันการ ทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203)โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) ประชากรที่ใช้ใน การศึกษา คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน ภาค เรียนที่ 2ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีดังนี้ 1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน (CAI) เรื่อง การป็องสันการทุจริต 2. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การป็องสันการทุจริต 3. แบบวัดความพึงพอใจ 4.แผนการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยนำบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)ไปใช้สับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายาง หน่อม จังหวัดลำพูน ซํ่งผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการสอนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 และได้ ประเมินประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI^นำไปใช้มีการทดสอบผลสัมถุทธ ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) และมีการวัดความพึงพอใจ ของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเที่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยเป็นไปตาม สมมุติฐานที่กำหนด คือ
1. ผลการทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการป็องสันการทุจริต วิชา เพิ่มเติม(ส 21203)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการเรียนการสอน พบว่า E/E2 เท่าสับ 89.89/86.00 แสดงว่า นวัตกรรมมีประสิทธิภาพของกระบวนการ (Ej) เท่าสับ 89.89 ซํ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่าสับ 86.00 ซํ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เมื่อพิจารณาบทเรียน
ค
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) ทุกเรื่องแล้ว พบว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดทุก เรื่อง
2. ผลการทดสอบผลสัมฤทธ'ทางการเริยน เรื่องการป็องกันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม (ส 21203) ของนักเริยนชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่ 1โรงเริยนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูนปี การศึกษา 2562 หลังการใช้บทเริยนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) สูงกว่าก่อนการใช้บทเริยน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเท่ากับ 7.30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 24.33
3. นักเริยนมีระดับความพึงพอใจในบทเริยนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการ ป็องกันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สูด มีค่าเฉลี่ยรวม 4.56
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1)สร้างและหาประสิทธิภาพของ บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)Oองการป็องสันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน 2)เปรียบเทียบผลสัมถุทธี้ทางการเรียนก่อนและ หลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการป็องสันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203) ชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่1โรงเรืยนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน และร)ศึกษาความพึงพอใจของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ที่มีต่อการเรียนเรื่องการป็องสันการ ทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203)โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) ประชากรที่ใช้ใน การศึกษา คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูน ภาค เรียนที่ 2ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีดังนี้ 1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน (CAI) เรื่อง การป็องสันการทุจริต 2. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การป็องสันการทุจริต 3. แบบวัดความพึงพอใจ 4.แผนการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยนำบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)ไปใช้สับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลสันป่ายาง หน่อม จังหวัดลำพูน ซํ่งผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการสอนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 และได้ ประเมินประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI^นำไปใช้มีการทดสอบผลสัมถุทธ ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) และมีการวัดความพึงพอใจ ของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเที่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยเป็นไปตาม สมมุติฐานที่กำหนด คือ
1. ผลการทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการป็องสันการทุจริต วิชา เพิ่มเติม(ส 21203)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการเรียนการสอน พบว่า E/E2 เท่าสับ 89.89/86.00 แสดงว่า นวัตกรรมมีประสิทธิภาพของกระบวนการ (Ej) เท่าสับ 89.89 ซํ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่าสับ 86.00 ซํ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เมื่อพิจารณาบทเรียน
ค
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) ทุกเรื่องแล้ว พบว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดทุก เรื่อง
2. ผลการทดสอบผลสัมฤทธ'ทางการเริยน เรื่องการป็องกันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม (ส 21203) ของนักเริยนชั้นมัธยมศึกษา'ปีที่ 1โรงเริยนเทศบาลสันป่ายางหน่อม จังหวัดลำพูนปี การศึกษา 2562 หลังการใช้บทเริยนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) สูงกว่าก่อนการใช้บทเริยน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเท่ากับ 7.30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 24.33
3. นักเริยนมีระดับความพึงพอใจในบทเริยนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เรื่องการ ป็องกันการทุจริต วิชาเพิ่มเติม(ส 21203) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สูด มีค่าเฉลี่ยรวม 4.56