รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฯ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอน แบบเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน นางสมบัลย์ แก้วงาม
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ ให้มีความพึงพอใจในระดับดีขึ้นไป รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre- experimental Design) ในรูปแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The single group, pretest-posttest Design) กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป จำนวน 10 ชุด และแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.59 และแบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. ชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.00/84.54 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอน แบบเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย
3. นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ อยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.74
ผู้รายงาน นางสมบัลย์ แก้วงาม
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ ให้มีความพึงพอใจในระดับดีขึ้นไป รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre- experimental Design) ในรูปแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The single group, pretest-posttest Design) กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป จำนวน 10 ชุด และแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.59 และแบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. ชุดการเรียน เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.00/84.54 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอน แบบเน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การปลูกพืชผักทั่วไป มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย
3. นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนร่วมกับวิธีสอนแบบเน้นทักษะปฏิบัติ อยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.74