ผลการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม
ผลการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดถ้ำเขาเหล็ก มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ที่จัดทำขึ้นตามเกณฑ์ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการแสดงออกทางด้านคุณธรรมของเด็กก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดถ้ำเขาเหล็ก ปีการศึกษา 2562 จำนวน 20 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ห้องที่ผู้วิจัยเป็นผู้รับผิดชอบ
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 6 แผน 30 กิจกรรม และนิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด และความซื่อสัตย์ สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 6 เรื่องเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสังเกตและแบบสอบถามพฤติกรรมการแสดงออกทางด้านคุณธรรม ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และ การทดสอบ t-test แบบไม่อิสระจากกัน (t – test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า
1.1 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความขยัน สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 95.80/94.81 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
1.2 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความประหยัด สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 96.67/95.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
1.3 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 96.42/95.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
2. พฤติกรรมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย และความสะอาด ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยรวมและรายข้อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า พฤติกรรมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด และความซื่อสัตย์ ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทานสูงกว่าก่อนการใช้กิจกรรมการเล่านิทาน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 6 แผน 30 กิจกรรม และนิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด และความซื่อสัตย์ สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 6 เรื่องเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสังเกตและแบบสอบถามพฤติกรรมการแสดงออกทางด้านคุณธรรม ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และ การทดสอบ t-test แบบไม่อิสระจากกัน (t – test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า
1.1 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความขยัน สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 95.80/94.81 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
1.2 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความประหยัด สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 96.67/95.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
1.3 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 96.42/95.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
2. พฤติกรรมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย และความสะอาด ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรม สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยรวมและรายข้อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า พฤติกรรมคุณธรรมด้านความขยัน ความประหยัด และความซื่อสัตย์ ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทานสูงกว่าก่อนการใช้กิจกรรมการเล่านิทาน