รายงานผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นายประภาส พลาศรัย
สังกัด โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดพรหมวิหาร) เทศบาลตำบลแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชีวิตปลอดภัยกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชีวิตปลอดภัยกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล1 (วัดพรหมวิหาร) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดพรหมวิหาร) เทศบาลตำบลแม่สาย จังหวัดเชียงราย ปีการศึกษา 2561 จำนวน 120 คน และ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดพรหมวิหาร) เทศบาลตำบลแม่สาย จังหวัดเชียงราย ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน7 เรื่อง แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยการทดสอบหลังเรียนและจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 ชั่วโมง โดยให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนของคู่มือการใช้บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง หน่วยการเรียนรู้ โรคที่ควรรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พ 14101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และทำการทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนและสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนหลังจากใช้บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า T-test ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง หน่วยการเรียนรู้ โรคที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พ 14101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.43/81.96
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 และเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง หน่วยการเรียนรู้ โรคที่ควรรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พ 14101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนอีเลิร์นนิ่ง หน่วยการเรียนรู้ โรคที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พ 14101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.43)