LASTEST NEWS

10 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 10 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 10 ต.ค. 2567ข่าวดี!!! สพป.สกลนคร เขต 1 เตรียมเรียกบรรจุครูผู้ช่วย 8 วิชาเอก 30 อัตรา 10 ต.ค. 2567โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง รับสมัครครูอัตราจ้าง 5 อัตรา วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 16,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 - 27 ตุลาคม 2567 09 ต.ค. 2567โรงเรียนผาเมืองวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน ตั้งแต่วันที่ 10-25 ตุลาคม 2567 09 ต.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 7 กลุ่มวิชาเอก 23 อัตรา - รายงานตัว 16 ตุลาคม 2567 09 ต.ค. 2567โรงเรียนสีชมพูศึกษา รับสมัครครูอัตราจ้าง 4 อัตรา เงินเดือน 15,050 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 22 ตุลาคม 2567 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) 09 ต.ค. 2567สพป.เชียงราย เขต 3 รับสมัครพนักงานราชการครู 10 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 16 - 22 ตุลาคม 2567 08 ต.ค. 2567ครูสายผู้สอน ที่จะไปสอบผอ.โรงเรียนในรอบถัดไป ความหวังเริ่มริบหรี่ ก.ค.ศ. ออกเกณฑ์สกัดดาวรุ่ง ต้องเป็นรองผอ.ชำนาญการพิเศษ 2 ปี หรือตำแหน่งอื่นที่ก.ค.ศ. เทียบเท่า 08 ต.ค. 2567ก.ค.ศ. ออกหนังสือแจ้ง ว 19/2567 มาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

usericon

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย กัลยา วงศ์สวัสดิ์
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
    การพัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ศึกษาความสามารถการเขียนสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และ 5) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราชจำนวน 1 ห้องเรียน รวมนักเรียน 36 คนที่ได้โดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นใช้ชื่อเรียกว่า “IPCAR Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลวัด มเหยงคณ์ 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นนำ (I : Introduction) 2) ขั้นดึงความคิด (P : Pulling ideas) 3) ขั้นปรับเปลี่ยนความคิด (C : Change in thinking) 4) ขั้นนำความคิดไปใช้ (A : Apply) และ 5) ขั้นทบทวน (R : Review) ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ด้านภาษาไทย ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยต้องการให้พัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ควบคู่กับกิจกรรมกลุ่มและการทำแบบฝึกหัด บทเรียนมีภาพสีสันสดใส มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายไม่น่าเบื่อพร้อมทั้งให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 78.89/76.67 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.93/78.33 และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 82.44/80.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 36 คนได้ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.38/83.64 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนเขียนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^