รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะฯ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กปฐมวัยชั้นเตรียม
อนุบาลปีที่ 2 (4 ปี)
ผู้ศึกษา นางชัชฎาพร อรัญมิ่ง
สถานที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดธรรมสโมสร
ระยะเวลา ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กปฐมวัยชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2 (4 ปี) การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
1. เพื่อพัฒนาชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะการฟังของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ เด็กปฐมวัยชายหญิงที่มีอายุ 4 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดธรรมสโมสร สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชัยพร อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาจาก การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยผู้ศึกษาทำหน้าที่เป็นครูประจำชั้น ผู้ศึกษาดำเนินการทดลองด้วยตนเอง โดยกลุ่มตัวอย่างจะได้รับการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ซึ่งทำการทดลองในกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ใช้เวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์ ๆ ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที ช่วงระยะเวลา 10.00 – 10.30 น. รวมทั้งสิ้น 24 ครั้ง
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประการณ์ จำนวน 8 ชุด แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ จำนวน 24 แผน และ แบบทดสอบทักษะการฟังของเด็กปฐมวัย ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ t – test สำหรับ Dependent Samples
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยระหว่างเรียนมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.47 และ ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยหลังเรียนด้วยชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์มีค่าเท่ากับ 87.50 แสดงว่าประสิทธิภาพ E1/E2 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 80/80 ซึ่งบ่งชี้ว่า ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่ใช้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนทักษะการฟังก่อนและหลังใช้ ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า โดยรวมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อจำแนกรายด้าน พบว่า ด้านการเข้าใจความหมายของคำ ด้านการปฏิบัติคำสั่ง และด้านการเข้าใจเรื่องราว สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า ดัชนีประสิทธิผลของผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กปฐมวัยชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2(4 ปี) เฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 0.6982 แสดงว่าเด็กปฐมวัยมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 69.82
อนุบาลปีที่ 2 (4 ปี)
ผู้ศึกษา นางชัชฎาพร อรัญมิ่ง
สถานที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดธรรมสโมสร
ระยะเวลา ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กปฐมวัยชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2 (4 ปี) การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
1. เพื่อพัฒนาชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะการฟังของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ เด็กปฐมวัยชายหญิงที่มีอายุ 4 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดธรรมสโมสร สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชัยพร อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 22 คน ซึ่งได้มาจาก การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยผู้ศึกษาทำหน้าที่เป็นครูประจำชั้น ผู้ศึกษาดำเนินการทดลองด้วยตนเอง โดยกลุ่มตัวอย่างจะได้รับการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ซึ่งทำการทดลองในกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ใช้เวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์ ๆ ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที ช่วงระยะเวลา 10.00 – 10.30 น. รวมทั้งสิ้น 24 ครั้ง
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประการณ์ จำนวน 8 ชุด แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ จำนวน 24 แผน และ แบบทดสอบทักษะการฟังของเด็กปฐมวัย ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ t – test สำหรับ Dependent Samples
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยระหว่างเรียนมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.47 และ ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยหลังเรียนด้วยชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์มีค่าเท่ากับ 87.50 แสดงว่าประสิทธิภาพ E1/E2 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 80/80 ซึ่งบ่งชี้ว่า ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่ใช้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนทักษะการฟังก่อนและหลังใช้ ชุดการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า โดยรวมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อจำแนกรายด้าน พบว่า ด้านการเข้าใจความหมายของคำ ด้านการปฏิบัติคำสั่ง และด้านการเข้าใจเรื่องราว สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ พบว่า ดัชนีประสิทธิผลของผลการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กปฐมวัยชั้นเตรียมอนุบาลปีที่ 2(4 ปี) เฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 0.6982 แสดงว่าเด็กปฐมวัยมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 69.82