LASTEST NEWS

28 พ.ย. 2567วิทยาลัยสารพัดช่างตราด รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 19 - 27 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยเทคนิคเลย รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 6 - 16 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567สพฐ.มีหนังสือ ด่วนที่สุด! ให้นำแนวทาง PISA มาใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสรรหาบุคลากร ทุกตำแหน่ง 27 พ.ย. 2567บอร์ดก.ค.ศ.เคาะร่างแนวปฏิบัติการย้ายครู ผ่านระบบ TRS เตรียมเปิดใช้งาน มกราคม 2568 27 พ.ย. 2567โรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567ด่วนที่สุด!! ที่ ศธ 04009/ว7543 เรื่อง การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 27 พ.ย. 2567สพฐ. กำชับเขตพื้นที่เร่งคลายทุกข์ลูกจ้าง เดินหน้าพาเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา พร้อมจัดงบประมาณแนวใหม่ตอบโจทย์นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” 26 พ.ย. 2567สพฐ. เข้ม สั่งครูล่วงละเมิดนักเรียนออกจากราชการทันที ย้ำดูแลสภาพจิตใจเด็กเป็นสำคัญ

บทคัดย่อการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้น ป.4

usericon

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน
จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง)
ชื่อผู้รายงาน บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน
จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง)
ชื่อผู้รายงาน : นางขนิษฐา วัชรธีรเดช
หน่วยงานที่สังกัด : โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฏร์บำรุง) อำเภอครบุรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๓
ปีที่รายงาน : ๒๕๖๑


บทคัดย่อ

    การวิจัยครั้งนี้มีเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ ๑) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามเกณฑ์กำหนดไว้ ๘๐/๘๐ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีความแตกต่างกัน ๓) หาค่าดัชนีประสิทธิผลใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๔) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีการดำเนินการวิจัย 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ มีดำเนินการ 4 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 การกำหนดกรอบรูปแบบการเรียนรู้ โดยการศึกษา เอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 การจัดทำแผนการเรียนรู้และสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ     ขั้นที่ 3 การตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนรู้โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พิจารณาตรวจสอบ ความเหมาะสมและสอดคล้อง ผลการตรวจสอบค่าความเหมาะสมและสอดคล้องอยู่ในระดับดี ขั้นที่ 4 การปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้ก่อนนำไปใช้ เป็นการศึกษานำร่องเพื่อการตรวจสอบ ความเป็นไปได้ก่อนนำไปใช้จริง ผลการตรวจสอบรูปแบบการเรียนรู้มีความเป็นไปได้ ตอนที่ 2 การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ โดยทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) อำเภอครบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๓ ภาคเรียน ที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวนนักเรียนทั้งหมด ๓๖ คน ผลศึกษา สรุปดังนี้
        
    1. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง (คุรุราษฎร์บำรุง) ประกอบด้วย
        ๑.1 สาระการเรียนรู้
        ๑.๒ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
        ๑.๓ แนวคิดและการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้
            ๑.๔ โครงสร้างรูปแบบการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นที่สำคัญ ดังนี้
                ๑.๔.๑ ขั้นนำ เป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และทดสอบก่อนเรียน
                ๑.๔.๒ ขั้นสอน เป็นการเรียนและฝึกทักษะ ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ โดยการใช้เทคนิค SQ4R ๖ ขั้นที่สำคัญ คือ 1) การสำรวจ Suvey (S) 2) การตั้งคำถาม Question (Q) 3) การอ่านอย่างละเอียด Read (R) 4) การจดบันทึก Record (R) 5) สรุปใจความสำคัญ Recite (R) และ 6) ทบทวน Reflect (R)
                ๑.๔.๓ ขั้นสรุปและประเมินผล เป็นการร่วมมือกันระหว่างนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน และครูแนะนำเสริมความรู้เพิ่มเติม ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน พบว่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมมาก
        2. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) พบว่า
            ๒.๑ รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๔.๖๒/๘๒.๖๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๘๐/๘๐
        ๒.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .๐๑
        ๒.๓ ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียน บ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีค่าเท่ากับ ๐.๗๕๘๐ หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทาง การเรียนรู้ เพิ่มขึ้น o.๗๕๘๐ คิดเป็นร้อยละ ๗๕.๘๐
        ๒.๔ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๖๙





Title            :    A development of a learning model with emphasis on reading promoting
                skills and catching the importance for Fourth-Grade Students in the
                Thai Language Department. Ban Chaliang (Kururatbamrung) School.
Reporter        :    Mrs.Khanithat Whatcharathiradet
Affiliation        :    Ban Chaliang (Kurratbamrung) School, Khon Buri District,
                Nakhon Ratchasima Primary Educational Service Area Office 3    
Year of Study:    2018

Abstract
    This research is a research and development with the research objectives as follows: 1) Develop learning model with an emphasis on reading promoting comprehension skills for Fourth-Grade Students in the Thai language, in order to the criteria 80/80 2) to compare the learning achievement of students studying with a learning model focusing on reading promoting comprehension skills for Fourth-Grade Students. 3) Find the effectiveness index using the learning model that focuses on reading promoting skills to capture the importance for Fourth-Grade Students in the Thai language. 4) To study the satisfaction of for Fourth-Grade Students towards learning model with an emphasis on reading promoting skills and catching the importance. For Fourth-Grade Students, Thai language There are 2 parts of the research. The first part is the development of the learning model with 4 steps as follows:
        Step 1: Determining the learning framework by studying relevant documents, textbooks and research.
        Step 2: Creating a learning plan and creating a reading comprehension exercise which comprise of 1) Learning Management Plan And reading comprehension exercises.
        Step 3: Check the quality of the learning model by having 5 experts consider the suitability and consistency. The results of the examination of appropriateness and consistency were at a good level.
        Step 4: Improving learning styles before applying Is a pilot study to examine the feasibility before going live Possible learning model results. Part 2 Finding the effectiveness of learning styles. By experimenting with the target group which are Fourth-Grade Students at Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School, Khon Buri District, Nakhon Ratchasima Primary Educational Service Area Zone 3, Term 1, Academic Year 2018, with a total of 36 students. The results of this research was :

        1. The result of the development of a learning model with a focus on reading promoting skills and catching the importance Fourth-Grade Students, Thai language, Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School consists of
            1.1 Subject Matter
            1.2 Objectives learning
            1.3 Concept and development of learning styles
            1.4 Structure of learning model which consists of 3 important steps as follows
                1.4.1 Warm up is to clarify the learning objectives. And test before studying.
                1.4.2 Practice Teaching is a study and practice of skills. With reading skills practice catching the importance By using SQ4R techniques, the 6 key steps are 1) Survey (S) 2) Question (Q) 3) Read (R) 4) Record (R) 5) Recite (R) and 6) Reflect
                1.4.3 Conclusion and Evaluation It's a collaboration between students helping to summarize the lesson. And teachers recommend additional knowledge The quality evaluation results from 5 experts found that it is in a very suitable criteria.
        2. The results of the study of the effectiveness of the learning model with a focus on promoting reading skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School found that :
            2.1 Learning styles with an emphasis on reading promoting skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language department Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School has an efficiency equal to 84.62/82.60 which is higher than the specified criteria 80/80.
            2.2 Achievement through learning with a focus on promoting reading skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School after studying higher than before studying, there is a statistically significant difference at the level of .01
            2.3 The effectiveness index of the learning model with a focus on reading promoting comprehension skills For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School is equal to 0.7580 means that students have progressive learning. O 7580 or 75.80 percent.
            2.4 The students were satisfied with the learning by using the focus learning model to promote reading skills and capture the importance. For Fourth-Grade Students, Thai language department Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School Overall, it is in the highest level, with an average of 4.69.




ปีที่รายงาน : ๒๕๖๑


บทคัดย่อ

    การวิจัยครั้งนี้มีเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ ๑) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามเกณฑ์กำหนดไว้ ๘๐/๘๐ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีความแตกต่างกัน ๓) หาค่าดัชนีประสิทธิผลใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๔) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีการดำเนินการวิจัย 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ มีดำเนินการ 4 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 การกำหนดกรอบรูปแบบการเรียนรู้ โดยการศึกษา เอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 การจัดทำแผนการเรียนรู้และสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ     ขั้นที่ 3 การตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนรู้โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พิจารณาตรวจสอบ ความเหมาะสมและสอดคล้อง ผลการตรวจสอบค่าความเหมาะสมและสอดคล้องอยู่ในระดับดี ขั้นที่ 4 การปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้ก่อนนำไปใช้ เป็นการศึกษานำร่องเพื่อการตรวจสอบ ความเป็นไปได้ก่อนนำไปใช้จริง ผลการตรวจสอบรูปแบบการเรียนรู้มีความเป็นไปได้ ตอนที่ 2 การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ โดยทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) อำเภอครบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๓ ภาคเรียน ที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวนนักเรียนทั้งหมด ๓๖ คน ผลศึกษา สรุปดังนี้
        
    1. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง (คุรุราษฎร์บำรุง) ประกอบด้วย
        ๑.1 สาระการเรียนรู้
        ๑.๒ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
        ๑.๓ แนวคิดและการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้
            ๑.๔ โครงสร้างรูปแบบการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นที่สำคัญ ดังนี้
                ๑.๔.๑ ขั้นนำ เป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และทดสอบก่อนเรียน
                ๑.๔.๒ ขั้นสอน เป็นการเรียนและฝึกทักษะ ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ โดยการใช้เทคนิค SQ4R ๖ ขั้นที่สำคัญ คือ 1) การสำรวจ Suvey (S) 2) การตั้งคำถาม Question (Q) 3) การอ่านอย่างละเอียด Read (R) 4) การจดบันทึก Record (R) 5) สรุปใจความสำคัญ Recite (R) และ 6) ทบทวน Reflect (R)
                ๑.๔.๓ ขั้นสรุปและประเมินผล เป็นการร่วมมือกันระหว่างนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน และครูแนะนำเสริมความรู้เพิ่มเติม ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน พบว่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมมาก
        2. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) พบว่า
            ๒.๑ รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๔.๖๒/๘๒.๖๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๘๐/๘๐
        ๒.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .๐๑
        ๒.๓ ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียน บ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีค่าเท่ากับ ๐.๗๕๘๐ หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทาง การเรียนรู้ เพิ่มขึ้น o.๗๕๘๐ คิดเป็นร้อยละ ๗๕.๘๐
        ๒.๔ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๖๙





Title            :    A development of a learning model with emphasis on reading promoting
                skills and catching the importance for Fourth-Grade Students in the
                Thai Language Department. Ban Chaliang (Kururatbamrung) School.
Reporter        :    Mrs.Khanithat Whatcharathiradet
Affiliation        :    Ban Chaliang (Kurratbamrung) School, Khon Buri District,
                Nakhon Ratchasima Primary Educational Service Area Office 3    
Year of Study:    2018

Abstract
    This research is a research and development with the research objectives as follows: 1) Develop learning model with an emphasis on reading promoting comprehension skills for Fourth-Grade Students in the Thai language, in order to the criteria 80/80 2) to compare the learning achievement of students studying with a learning model focusing on reading promoting comprehension skills for Fourth-Grade Students. 3) Find the effectiveness index using the learning model that focuses on reading promoting skills to capture the importance for Fourth-Grade Students in the Thai language. 4) To study the satisfaction of for Fourth-Grade Students towards learning model with an emphasis on reading promoting skills and catching the importance. For Fourth-Grade Students, Thai language There are 2 parts of the research. The first part is the development of the learning model with 4 steps as follows:
        Step 1: Determining the learning framework by studying relevant documents, textbooks and research.
        Step 2: Creating a learning plan and creating a reading comprehension exercise which comprise of 1) Learning Management Plan And reading comprehension exercises.
        Step 3: Check the quality of the learning model by having 5 experts consider the suitability and consistency. The results of the examination of appropriateness and consistency were at a good level.
        Step 4: Improving learning styles before applying Is a pilot study to examine the feasibility before going live Possible learning model results. Part 2 Finding the effectiveness of learning styles. By experimenting with the target group which are Fourth-Grade Students at Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School, Khon Buri District, Nakhon Ratchasima Primary Educational Service Area Zone 3, Term 1, Academic Year 2018, with a total of 36 students. The results of this research was :

        1. The result of the development of a learning model with a focus on reading promoting skills and catching the importance Fourth-Grade Students, Thai language, Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School consists of
            1.1 Subject Matter
            1.2 Objectives learning
            1.3 Concept and development of learning styles
            1.4 Structure of learning model which consists of 3 important steps as follows
                1.4.1 Warm up is to clarify the learning objectives. And test before studying.
                1.4.2 Practice Teaching is a study and practice of skills. With reading skills practice catching the importance By using SQ4R techniques, the 6 key steps are 1) Survey (S) 2) Question (Q) 3) Read (R) 4) Record (R) 5) Recite (R) and 6) Reflect
                1.4.3 Conclusion and Evaluation It's a collaboration between students helping to summarize the lesson. And teachers recommend additional knowledge The quality evaluation results from 5 experts found that it is in a very suitable criteria.
        2. The results of the study of the effectiveness of the learning model with a focus on promoting reading skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School found that :
            2.1 Learning styles with an emphasis on reading promoting skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language department Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School has an efficiency equal to 84.62/82.60 which is higher than the specified criteria 80/80.
            2.2 Achievement through learning with a focus on promoting reading skills and catching the importance For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School after studying higher than before studying, there is a statistically significant difference at the level of .01
            2.3 The effectiveness index of the learning model with a focus on reading promoting comprehension skills For Fourth-Grade Students, Thai language Ban Chaliang (Kururat Bamrung) School is equal to 0.7580 means that students have progressive learning. O 7580 or 75.80 percent.
            2.4 The students were satisfied with the learning by using the focus learning model to promote reading skills and capture the importance. For Fourth-Grade Students, Thai language department Ban Chaliang (Kurarat Bamrung) School Overall, it is in the highest level, with an average of 4.69.
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^