รายงานผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริงเพื่อพัฒนาทักษะ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน
ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ
ผู้ศึกษา เอมมิกา แมดจ่อง
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านดงยอ จากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง
2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ ก่อนและหลังที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริงกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า คือ เด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2562 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นเด็กปฐมวัยที่ผู้ศึกษาค้นคว้าปฏิบัติการสอนอยู่ และต้องการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยทั้ง 28 คน ระยะเวลาในการทดลองการศึกษาครั้งนี้ ได้ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เป็นเวลา 5 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง 15 เกม โดยทำการทดลองในช่วงเวลากิจกรรมเกมการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่
1. เกมการศึกษา โดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยช่วงอายุ 3 – 4 ปี จำนวน 15 เกม ประกอบแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จำนวน 15 แผน ใช้เวลาแผนละ 30 นาที
2. แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 4 ชุด ชุดละ 5 ข้อ รวมทั้งหมด 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาค้นคว้าใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและการหาคุณภาพด้วยวิธีทางสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทางสถิติที่ใช้ในการทดลองสมมติฐาน คือ ค่าแจกแจง t แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. จากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี พบว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง สามารถพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ด้านการจำแนกประเภท การเปรียบเทียบ การเรียงลำดับ และการนับจำนวน ให้สูงขึ้นทั้ง 4 ทักษะ จากก่อนการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 2.29 2.36 2.36 2.71 หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เท่ากับ 4.21 4.25 4.29 4.82 ตามลำดับ
2. ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย หลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริงมีคะแนนสูงขึ้น จากคะแนนเฉลี่ยของการประเมินก่อนการจัดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 9.71 คิดเป็นร้อยละ 48.55 จากนั้นหลังการจัดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 17.57 คิดเป็นร้อยละ 87.85 ซึ่งคะแนนเฉลี่ยร้อยละของการประเมินหลังการจัดกิจกรรมมีค่าสูงกว่าการประเมินก่อนการจัดกิจกรรม 55.26
3. การเปรียบเทียบผลทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยพบว่า คะแนนทดสอบหลังการได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย สูงกว่าก่อนการได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย สามารถช่วยให้เด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยภาพรวมหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ
ผู้ศึกษา เอมมิกา แมดจ่อง
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านดงยอ จากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง
2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ ก่อนและหลังที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริงกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า คือ เด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2562 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นเด็กปฐมวัยที่ผู้ศึกษาค้นคว้าปฏิบัติการสอนอยู่ และต้องการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยทั้ง 28 คน ระยะเวลาในการทดลองการศึกษาครั้งนี้ ได้ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เป็นเวลา 5 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง 15 เกม โดยทำการทดลองในช่วงเวลากิจกรรมเกมการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่
1. เกมการศึกษา โดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยช่วงอายุ 3 – 4 ปี จำนวน 15 เกม ประกอบแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จำนวน 15 แผน ใช้เวลาแผนละ 30 นาที
2. แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 4 ชุด ชุดละ 5 ข้อ รวมทั้งหมด 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาค้นคว้าใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและการหาคุณภาพด้วยวิธีทางสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทางสถิติที่ใช้ในการทดลองสมมติฐาน คือ ค่าแจกแจง t แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. จากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี พบว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง สามารถพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ด้านการจำแนกประเภท การเปรียบเทียบ การเรียงลำดับ และการนับจำนวน ให้สูงขึ้นทั้ง 4 ทักษะ จากก่อนการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 2.29 2.36 2.36 2.71 หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เท่ากับ 4.21 4.25 4.29 4.82 ตามลำดับ
2. ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย หลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริงมีคะแนนสูงขึ้น จากคะแนนเฉลี่ยของการประเมินก่อนการจัดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 9.71 คิดเป็นร้อยละ 48.55 จากนั้นหลังการจัดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 17.57 คิดเป็นร้อยละ 87.85 ซึ่งคะแนนเฉลี่ยร้อยละของการประเมินหลังการจัดกิจกรรมมีค่าสูงกว่าการประเมินก่อนการจัดกิจกรรม 55.26
3. การเปรียบเทียบผลทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยพบว่า คะแนนทดสอบหลังการได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย สูงกว่าก่อนการได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาโดยใช้สื่อของจริง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย สามารถช่วยให้เด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดงยอ มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยภาพรวมหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05