การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
THE DEVELOPMENT OF ANALYTICAL THINKING SKILLS AND LEARNING ACHIEVEMENT LEARNING SUBSTANCE BY YONISOMANASIKARA APPROACH IN THE SOCIAL STUDIES, RELIGION AND CULTURE, FOR MATTAYOMSUKSA 4 AT WEANGWONGKOTWITTAYAKOM
ผู้วิจัย : นายณิชชานน แหลมคม
ปีที่ทำวิจัย : 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นงานวิจัยในชั้นเรียนมีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ โดยนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ โดยนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนเวียงวงกตวิทยาคม อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น จำนวน 26 คน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1) เครื่องมือที่ใช้ ในการทดลองปฏิบัติการ ได้ แก่ แผนการจัดการเรียนรู้สาระเศรษฐศาสตร์ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับการใช้ผังกราฟิก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 แผน ใช้ เวลาแผนละ 50 นาทีรวม 9 คาบ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติการ ได้แก่ บันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียน แบบสัมภาษณ์นักเรียน และแบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
ผลการวิจัยพบว่า
1.ผลการใช้แบบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ พบว่า นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ผ่านเกณฑ์ จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 88.46 มีคะแนนเฉลี่ยจากคะแนนเต็ม 20 คะแนนเท่ากับ 14.28 คิดเป็นร้อยละ 71.4 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.ผลการใช้แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ผลทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย พบว่า นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย พบว่า นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 80.77 มีคะแนนเฉลี่ยจากคะแนนเต็ม 30 คะแนนเท่ากับ 22.03 คิดเป็นร้อยละ 73.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้