การพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) อ่
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความ
พร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผู้วิจัย นายนิลพงษ์ เอกพันธุ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ปีที่ทำวิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) เปรียบเทียบความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลพระลับ กองการศึกษา เทศบาลตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 32 แผน ๆ ละ 60 นาที 2) แบบทดสอบวัดความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 4 ข้อ ๆ ละ 5 คะแนน ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.80 - 1.00 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.27 - 0.76 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.04/84.80 ซึ่งถือว่า แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7751 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 77.51
3. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
พร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผู้วิจัย นายนิลพงษ์ เอกพันธุ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ปีที่ทำวิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) เปรียบเทียบความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างก่อนและหลังได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลพระลับ กองการศึกษา เทศบาลตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 32 แผน ๆ ละ 60 นาที 2) แบบทดสอบวัดความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 4 ข้อ ๆ ละ 5 คะแนน ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.80 - 1.00 และ 3) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.27 - 0.76 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.04/84.80 ซึ่งถือว่า แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7751 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 77.51
3. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อพัฒนาความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก