การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
ผู้วิจัย นายวิทวัช ตาศรี
หน่วยงาน โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30
ปีที่พิมพ์ 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3 ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก อำเภอหนองบัวแดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จำนวน 3 ห้องเรียน รวม 72 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก อำเภอหนองบัวแดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน จำนวน 9 ชุด มีประสิทธิภาพ 78.65/78.17 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน จำนวน 9 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบชนิดเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.75 มีค่าความยากตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.55 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทดสอบสมมติฐาน t-test Dependent
ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 78.65/78.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า ครูผู้สอนควรนำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์
ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไปใช้ในการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้รับความรู้ด้านเนื้อหา ทักษะการคิดคำนวณ
มีความพึงพอใจต่อการเรียน สามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างมีความสุข และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นต่อไป
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
ผู้วิจัย นายวิทวัช ตาศรี
หน่วยงาน โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30
ปีที่พิมพ์ 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3 ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก อำเภอหนองบัวแดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จำนวน 3 ห้องเรียน รวม 72 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนนางแดดวังชมภูวิทยา รัชมังคลาภิเษก อำเภอหนองบัวแดง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน จำนวน 9 ชุด มีประสิทธิภาพ 78.65/78.17 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน จำนวน 9 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบชนิดเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.75 มีค่าความยากตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.55 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทดสอบสมมติฐาน t-test Dependent
ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 78.65/78.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า ครูผู้สอนควรนำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริพันธ์
ของฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไปใช้ในการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้รับความรู้ด้านเนื้อหา ทักษะการคิดคำนวณ
มีความพึงพอใจต่อการเรียน สามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างมีความสุข และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นต่อไป