การฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางนันทิชา พรมอ้น
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษในครั้งนี้ เนื่องจากผู้วิจัยเห็นว่าการอ่านเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีความสำคัญในการพัฒนาทักษะทางภาษา โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ซึ่งได้มาโดยการสุ่มเลือก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ
ผลจากการวิจัยครั้งนี้พบว่า
จากการเปรียบเทียบคะแนนการอ่านของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในการสอบก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าค่าคะแนนทางสถิติก่อนทำการทดลองคะแนนของกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยเป็น 12.73 และคะแนนของกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยเป็น 10.73 และหลังทำการทดลองคะแนนของกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยเป็น 21.40 และคะแนนของกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยเป็น 17.46 ซึ่งมีความแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ แสดงว่ากลุ่มทดลองมีคะแนนการอ่านสูงกว่ากลุ่มควบคุม เด็กสามารถเรียนการอ่านได้ดี และรักการอ่านมากขึ้น บ่งบอกถึงประสิทธิผลของเครื่องมือในการใช้ ที่ทำการทดลองเป็นเรื่องที่เรียงลำดับจากเรื่องง่ายไปเรื่องยากและมีภาพประกอบรวมทั้งแบบฝึกหัดที่เด็กจะสามารถอ่านได้ง่ายและน่าสนใจ เป็นการเริ่มต้นให้เด็กฝึกและหัดอ่าน เพราะเด็กสามารถจดจำคำศัพท์ไว้ในหน่วยความจำ จึงสามารถอ่านจับใจความได้เมื่อมีการทดสอบภายหลัง