รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรั
ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562
ผู้รายงาน นางณลิชา ผลยะฤทธิ์
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2562
บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา
ปีการศึกษา 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนา เข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย ระดับคุณภาพการพัฒนาระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน และความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อการดาเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2562 กลุ่มเป้าหมายในการประเมินประกอบด้วยประชากร และกลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ ประชากรนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 120 คน ประชากรครู ปีการศึกษา 2562 จานวน 17 คน ประชากรผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 จานวน120 คน และกลุ่มตัวอย่าง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี การศึกษา 2562 จา นวน 7 คนเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จานวน 6 ฉบับ แบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเรียน ปี การศึกษา 2562 จา นวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น จา นวน 7 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.86-0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมิน สรุปได้ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กา หนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.27, σ= 0.59) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (X = 4.25, S.D.= 0.79) ในระดับมากได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนาเข้าโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.22 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละด้านพบว่า ด้านความพร้อมของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (μ = 4.50 , σ = 0.66) อยู่ในระดับมากที่สุดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านความเพียงพอของวัสดุ อุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.35, σ = 0.66) อยู่ในระดับมาก ความพอเพียงของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.20 , σ = 0.68) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.16 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ผู้สนับสนุนโครงการ มีค่าเฉลี่ย (μ = 3.91 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.01 , σ= 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.13 , σ = 0.66) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและผู้ปกครองมีความคิดเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย (μ= 4.01 , σ = 0.64) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่
4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือโรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.98 , σ = 0.58) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.25 , σ = 0.65) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครอง มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.99 , σ = 0.64) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในโครงการการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.26 , σ = 0.35) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.16 , σ = 0.67) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.97 , σ = 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน ตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง พบว่า ปีการศึกษา 2561โดยภาพรวมมีจานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จานวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 24.41 ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีจานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 7.50 แสดงให้เห็นว่า จานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลดลงจานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 18.33 สูงกว่าเกณฑ์ ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อการดาเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ที่กาหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ = 4.02 , σ = 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ = 4.14 , σ = 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.02 , σ = 0.69) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการประเมินไปใช้
1.1 ควรประชาสัมพันธ์โครงการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบก่อนประเมินสภาพแวดล้อม พร้อมวิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา
1.2 ควรประสานงานการจัดกิจกรรมกับกลุ่มบริหารวิชาการ เพื่อการวางแผนหรือกาหนดเวลาการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามปฏิทินและนิเทศการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
1.3 ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนสร้างขวัญและกาลังใจแก่ครูที่ดูแลนักเรียน เช่น นักเรียนได้รับรางวัลคุณธรรมดีเด่นจากการแข่งขัน หรือได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และชื่นชมยกย่องนักเรียนที่มีความประพฤติดีมีคุณธรรมอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
1.4 ควรส่งเสริมการให้ความร่วมมือกับสหวิชาชีพและชุมชนเพิ่มขึ้น
1.5 ควรส่งเสริมกิจกรรมให้นักเรียนสามารถป้องกันและดูแลตนเองได้ทั้งใน เรื่องเพศ ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น
2. ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการ หรือการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม
2.2 ควรมีการศึกษาปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ผู้รายงาน นางณลิชา ผลยะฤทธิ์
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2562
บทสรุป
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา
ปีการศึกษา 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนา เข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย ระดับคุณภาพการพัฒนาระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน และความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อการดาเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2562 กลุ่มเป้าหมายในการประเมินประกอบด้วยประชากร และกลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ ประชากรนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 120 คน ประชากรครู ปีการศึกษา 2562 จานวน 17 คน ประชากรผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 จานวน120 คน และกลุ่มตัวอย่าง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี การศึกษา 2562 จา นวน 7 คนเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จานวน 6 ฉบับ แบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเรียน ปี การศึกษา 2562 จา นวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น จา นวน 7 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.86-0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมิน สรุปได้ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กา หนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.27, σ= 0.59) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (X = 4.25, S.D.= 0.79) ในระดับมากได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนาเข้าโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.22 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละด้านพบว่า ด้านความพร้อมของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (μ = 4.50 , σ = 0.66) อยู่ในระดับมากที่สุดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านความเพียงพอของวัสดุ อุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.35, σ = 0.66) อยู่ในระดับมาก ความพอเพียงของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.20 , σ = 0.68) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.16 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ผู้สนับสนุนโครงการ มีค่าเฉลี่ย (μ = 3.91 , σ = 0.60) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.01 , σ= 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.13 , σ = 0.66) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและผู้ปกครองมีความคิดเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย (μ= 4.01 , σ = 0.64) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่
4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือโรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.98 , σ = 0.58) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.25 , σ = 0.65) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครอง มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.99 , σ = 0.64) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในโครงการการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.26 , σ = 0.35) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 4.16 , σ = 0.67) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ= 3.97 , σ = 0.63) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน ตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง พบว่า ปีการศึกษา 2561โดยภาพรวมมีจานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จานวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 24.41 ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีจานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 7.50 แสดงให้เห็นว่า จานวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลดลงจานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 18.33 สูงกว่าเกณฑ์ ที่กาหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียน ครู และผู้ปกครองต่อการดาเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนพลวิทยา ปีการศึกษา 2562 พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ที่กาหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ = 4.02 , σ = 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนครูมีความเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย (μ = 4.14 , σ = 0.72) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และผู้ปกครองมีความเห็นโดยรวม มีค่าเฉลี่ย (μ = 4.02 , σ = 0.69) อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เช่นกัน
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการประเมินไปใช้
1.1 ควรประชาสัมพันธ์โครงการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบก่อนประเมินสภาพแวดล้อม พร้อมวิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา
1.2 ควรประสานงานการจัดกิจกรรมกับกลุ่มบริหารวิชาการ เพื่อการวางแผนหรือกาหนดเวลาการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามปฏิทินและนิเทศการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
1.3 ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนสร้างขวัญและกาลังใจแก่ครูที่ดูแลนักเรียน เช่น นักเรียนได้รับรางวัลคุณธรรมดีเด่นจากการแข่งขัน หรือได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และชื่นชมยกย่องนักเรียนที่มีความประพฤติดีมีคุณธรรมอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
1.4 ควรส่งเสริมการให้ความร่วมมือกับสหวิชาชีพและชุมชนเพิ่มขึ้น
1.5 ควรส่งเสริมกิจกรรมให้นักเรียนสามารถป้องกันและดูแลตนเองได้ทั้งใน เรื่องเพศ ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น
2. ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการ หรือการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม
2.2 ควรมีการศึกษาปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน