การพัฒนารูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์
ผู้วิจัย นางสาวอังคณา เบ็ญโส๊ะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงานที่สังกัด เทศบาลตำบลพะตง จังหวัดสงขลา
สถานที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง)
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) และใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มตัวอย่างเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน The One-Group Pretest-Posttest Design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 1 (ชุมชนบ้านอุดมทอง) เทศบาลตำบลพะตง ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน ที่ได้มาจากการสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้แบบ 5E จำนวน 11 แผน ใช้เวลาสอนรวม 21ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.33–0.73 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.21–0.94 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นข้อสอบอัตนัยแบบเขียนตอบ จำนวน 4 ของ ซึ่งมีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.42–0.56 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.38–0.71 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.77 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้แบบ 5E เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 16 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. รูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วยองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้แบบ 5E ซึ่งประกอบด้วย 6 หน่วยการเรียนรู้ 12 แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เวลาเรียน 16 ชั่วโมง
2. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่า E1 /E2 เท่ากับ 76.77/76.56 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6071 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 60.71
4. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของกลุ่มตัวอย่าง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5. ความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวม ผู้เรียนมีผลการคิดวิเคราะห์ อยู่ในระดับดีมาก จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67 รองลงมา ผู้เรียนมีผลการคิดวิเคราะห์ อยู่ในระดับดี จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 ผู้เรียนมีผลการคิดวิเคราะห์ อยู่ในระดับพอใช้ จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.33 และผู้เรียนมีผลการคิดวิเคราะห์ อยู่ในระดับปรับปรุง จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 ตามลำดับ
6. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการใช้คำถามร่วมกับวงจรการเรียนรู้ 5E ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.66, S.D. =0.51)