นวัตกรรมเด็กไทยยุคใหม่ สนใจใฝ่ธรรม ก้าวล้ำด้วยธรรมศึกษาตามกระบวน
ปัจจัยแห่งพลังอำนาจที่สำคัญของชาติที่สุดประการหนึ่ง คือ ทรัพยากรมนุษย์(ประชากร) ซึ่งในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านนั้น จำเป็นต้องมีการพัฒนาด้านศักยภาพควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็กและเยาวชนของประเทศ เพราะผู้ใหญ่จะมีคุณภาพดีพร้อมทั้งคุณธรรมดีได้จะต้องมีรากฐานจากกระบวนการหล่อหลอมทางสังคมที่มีประสิทธิภาพจากสถาบันทางสังคม อันได้แก่ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันศาสนามาตั้งแต่เกิด
ความตามมาตรา 6 ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ได้กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษาไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม วัฒนธรรมในการดํารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข”
ที่ผ่านมาโรงเรียนมีหน้าที่ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้ที่มีความเก่งด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจ ก็จะทำให้การเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยาก ดังนั้น ทางโรงเรียนอนุบาลขวัญยืนจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษา เพราะจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ตลอดจนส่งเสริมให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม ยึดมั่นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นค่านิยมหลัก 12 ประการ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเข้าใจหลักพุทธธรรมที่ถูกต้อง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อันมีผลต่อการส่งเสริมค่านิยมหลักในเรื่องความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ภูมิใจในความเป็นไทย และเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรม มีความเป็นพลเมือง สามารถทำประโยชน์แก่ส่วนรวม ตลอดจนพัฒนาตนเองไปในทางที่ถูกต้อง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดทำนวัตกรรมนี้ที่โรงเรียนได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามหลัก 3 ประสาน ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียนหรือ บวร และสร้างเป็นแนวทางให้นักเรียนได้มีการพัฒนาตามกระบวนการไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญาอย่างบูรณาการเป็น องค์รวมและต่อเนื่อง และที่สำคัญสามารถทำให้นักเรียนให้เป็นคนดี เก่ง งาม และ “มีความรู้ควบคู่คุณธรรม”
ความตามมาตรา 6 ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ได้กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษาไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม วัฒนธรรมในการดํารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข”
ที่ผ่านมาโรงเรียนมีหน้าที่ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้ที่มีความเก่งด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจ ก็จะทำให้การเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยาก ดังนั้น ทางโรงเรียนอนุบาลขวัญยืนจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษา เพราะจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ตลอดจนส่งเสริมให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม ยึดมั่นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นค่านิยมหลัก 12 ประการ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเข้าใจหลักพุทธธรรมที่ถูกต้อง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อันมีผลต่อการส่งเสริมค่านิยมหลักในเรื่องความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ภูมิใจในความเป็นไทย และเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรม มีความเป็นพลเมือง สามารถทำประโยชน์แก่ส่วนรวม ตลอดจนพัฒนาตนเองไปในทางที่ถูกต้อง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดทำนวัตกรรมนี้ที่โรงเรียนได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามหลัก 3 ประสาน ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียนหรือ บวร และสร้างเป็นแนวทางให้นักเรียนได้มีการพัฒนาตามกระบวนการไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญาอย่างบูรณาการเป็น องค์รวมและต่อเนื่อง และที่สำคัญสามารถทำให้นักเรียนให้เป็นคนดี เก่ง งาม และ “มีความรู้ควบคู่คุณธรรม”