การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้
ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายนวพล แวมามะ
ปีการศึกษา 2561
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ จำนวน 31 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มด้วยการจับฉลาก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 เล่าเรื่อง (N : Narrate) ขั้นที่ 2 รอบรู้ (W : Wisdom) ขั้นที่ 3 นำไปใช้ (A : Apply) ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ (P : Practice) ขั้นที่ 5 โอกาส (O : Occasion) ขั้นที่ 6 คงทน (L : Last) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.41/81.08 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ .01
3. ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในช่วงระหว่างเรียนมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
4. นักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้
ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายนวพล แวมามะ
ปีการศึกษา 2561
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ จำนวน 31 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มด้วยการจับฉลาก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 เล่าเรื่อง (N : Narrate) ขั้นที่ 2 รอบรู้ (W : Wisdom) ขั้นที่ 3 นำไปใช้ (A : Apply) ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ (P : Practice) ขั้นที่ 5 โอกาส (O : Occasion) ขั้นที่ 6 คงทน (L : Last) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.41/81.08 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ .01
3. ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในช่วงระหว่างเรียนมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
4. นักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (NWAPOL Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด