ผลการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องที่มีต่อพัฒนาการด้านการพูด
ชื่อผลงาน ผลการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องที่มีต่อพัฒนาการด้านการพูด
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ผู้วิจัย นางอัมพร เจ๊กคำ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ผลการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องที่มีต่อพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ครั้งนี้มีความมุ่งหมาย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยทั้งโดยรวมและรายด้าน ได้แก่ ด้านการพูดคำศัพท์ ด้านการพูดเป็นประโยค และด้านการพูดเป็นเรื่องราวและ 2) เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานแบบไม่จบเรื่อง กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนปฐมวัย ชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทาน แบบไม่จบเรื่อง จำนวน 30 แผน และ 2) แบบทดสอบพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ด้านการพูดคำศัพท์ ด้านการพูดเป็นประโยคและด้านการพูดเป็น เรื่องราว การให้คะแนนแบบ Scoring Rubric 3 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่อง มีพัฒนาการด้านการพูดคำศัพท์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 3 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.59 คะแนน ซึ่งก่อนการทดลอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.22 คะแนน ในด้านการพูดเป็นประโยคสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.49 คะแนน ก่อนการทดลองมีเฉลี่ยเท่ากับ 1.44 คะแนน ส่วนด้านการพูดเป็นเรื่องราวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.57 คะแนน ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.17 คะแนน จากค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องจะเห็นได้ว่า พัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยสูงขึ้นทุกด้านจึงส่งผลให้พัฒนาการด้านการพูดคำศัพท์กับพัฒนาการด้านการพูดเป็นเรื่องราวโดยรวมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 3 ส่วนพัฒนาการด้านการพูดเป็นประโยคโดยรวมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 3
ผลการวิจัยพบว่า พัฒนาการด้านการพูดโดยรวมเด็กปฐมวัยก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.09 คะแนน อยู่ในระดับ 1 คือพูดเป็นเรื่องราวได้โดยต้องมีครูช่วยแนะหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.58 คะแนน อยู่ในระดับ 3 คือพูดด้วยตนเองเป็นคำศัพท์ พูดเป็นประโยคและพูดเป็นเรื่องราวตามลำดับอย่างต่อเนื่องและแสดงสีหน้าท่าทางน้ำเสียงเหมาะสมกับสถานการณ์
ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ผู้วิจัย นางอัมพร เจ๊กคำ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ผลการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องที่มีต่อพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ครั้งนี้มีความมุ่งหมาย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยทั้งโดยรวมและรายด้าน ได้แก่ ด้านการพูดคำศัพท์ ด้านการพูดเป็นประโยค และด้านการพูดเป็นเรื่องราวและ 2) เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานแบบไม่จบเรื่อง กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนปฐมวัย ชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทาน แบบไม่จบเรื่อง จำนวน 30 แผน และ 2) แบบทดสอบพัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ด้านการพูดคำศัพท์ ด้านการพูดเป็นประโยคและด้านการพูดเป็น เรื่องราว การให้คะแนนแบบ Scoring Rubric 3 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่อง มีพัฒนาการด้านการพูดคำศัพท์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 3 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.59 คะแนน ซึ่งก่อนการทดลอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.22 คะแนน ในด้านการพูดเป็นประโยคสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.49 คะแนน ก่อนการทดลองมีเฉลี่ยเท่ากับ 1.44 คะแนน ส่วนด้านการพูดเป็นเรื่องราวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.57 คะแนน ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.17 คะแนน จากค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเล่านิทานแบบไม่จบเรื่องจะเห็นได้ว่า พัฒนาการด้านการพูดของนักเรียนปฐมวัยสูงขึ้นทุกด้านจึงส่งผลให้พัฒนาการด้านการพูดคำศัพท์กับพัฒนาการด้านการพูดเป็นเรื่องราวโดยรวมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 3 ส่วนพัฒนาการด้านการพูดเป็นประโยคโดยรวมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 3
ผลการวิจัยพบว่า พัฒนาการด้านการพูดโดยรวมเด็กปฐมวัยก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.09 คะแนน อยู่ในระดับ 1 คือพูดเป็นเรื่องราวได้โดยต้องมีครูช่วยแนะหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.58 คะแนน อยู่ในระดับ 3 คือพูดด้วยตนเองเป็นคำศัพท์ พูดเป็นประโยคและพูดเป็นเรื่องราวตามลำดับอย่างต่อเนื่องและแสดงสีหน้าท่าทางน้ำเสียงเหมาะสมกับสถานการณ์