รายงานการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุส
รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวเสาวคนธ์ เทียนิรมล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาลวัดรามประดิษฐ์ สังกัดเทศบาลเมืองปากพนัง ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดนิมมานรดี สำนักงานเขตภาษีเจริญ สังกัดกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 26 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยกำหนดหน่วยเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย (1) หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 เรื่อง เพื่อนเกลอเจอกัน เล่มที่ 2 เรื่องบ้านเธอบ้านฉัน เล่มที่ 3 เรื่อง จุดหมายเดียวกัน เล่มที่ 4 เรื่อง รื่นเริงวันสำคัญ เล่มที่ 5 เรื่อง สานฝันวันฟ้าใส ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.65 ถึง 4.74 อยู่ในระดับมีความเหมาะสมมากที่สุด และนำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองรายบุคคล (Individual Tryout)แบบหนึ่งต่อหนึ่ง จำนวน 3 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 67.87/66.67 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์ นำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) จำนวน 9 คน ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 73.02/72.96 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์ นำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองภาคสนาม (Individual Try-Out) จำนวน 30 คน ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.04/ 80.56 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ (2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 แผน เวลา 20 ชั่วโมง ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา ด้านกระบวนการ จำนวน 5 คน จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้เฉลี่ยระหว่าง 4.66 ถึง 4.74 อยู่ในระดับมีความเหมาะสมมากที่สุด (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียน ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.53-0.60 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.67-0.93 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ KR20 = 0.995 (4) แบบวัดความพึงพอใจหลังเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่อนำผลมาวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพเครื่องมือ พบว่า แบบวัดความพึงพอใจมีค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่า ของครอนบัค เท่ากับ 0.991 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้เปรียบเทียบ ได้แก่ t - test แบบ Independent
ผลการวิจัย พบว่า
1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนามีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.00/84.74
2. นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด สายสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม รายวิชาเพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55)