การพัฒนารูปแบบการใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางสาวอุษณีย์ ขวางนกขุ้ม
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองข่า(คุรุประชาวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิเขต 2 เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองข่า (คุรุประชาวิทยา) จำนวน 27 คนกลุ่มตัวอย่างได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้ผ่านการตรวจสอบความเหมาะสมและความเที่ยงตรงจากผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกีฬาฟุตซอล และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t-test dependent วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป
ผลการศึกษาพบว่า
1. การพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลรายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองข่า(คุรุประชาวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิเขต 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.25/86.53 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกีฬาฟุตซอล รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองข่า(คุรุประชาวิทยา) ที่เรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลรายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51)
ผลการศึกษาครั้งนี้ เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอน รายวิชาพลศึกษา (ฟุตซอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งสามารถ สร้างแรงจูงใจทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีทักษะกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม เกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีความสุขในการเรียนนำผลการปฏิบัติงานไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และเป็นแนวทางการศึกษาค้นคว้าแก่ครูผู้สอนและผู้สนใจในการพัฒนาแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล ต่อไป