การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ STCHAI Model เพื่อพัฒนาผลสัม
ทางการเรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง แคลคูลัสเบื้องต้น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายสิทธิชัย ยุบลวัฒน์
โรงเรียน โรงเรียนอนุxxxลนารี อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 46130
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ STCHAI Model
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง แคลคูลัสเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีขั้นตอนการดำเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบันและเงื่อนไขการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ทักษะการแก้ปัญหา โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษา จำนวน 5 ท่าน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ STCHAI Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง แคลคูลัสเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ STCHAI Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง แคลคูลัสเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้รูปแบบเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 38 คน โรงเรียนอนุxxxลนารี อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความสามารถทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา และแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติt–test (Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ STCHAI Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง แคลคูลัสเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มี 6 องค์ประกอบ คือ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ขั้นตอนการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และระบบสนับสนุน ผู้วิจัยได้สังเคราะห์แนวคิดของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ SSCS CIPPA Collaborative learning group และการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางTPACK ICARE สู่ขั้นตอนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจและค้นหา (S : Stimulate / Search) ขั้นที่ 2 สอบ/ทีม/เทคโนโลยี (T : Test /Team/Technological) ขั้นที่ 3 การสร้างองค์ความรู้/ร่วมมือในการเรียนรู้ (C : constructive learning / Cooperative Learning) ขั้นที่ 4 ขั้นลงมือปฏิบัติสร้างองค์ความรู้ผ่านกระบวนการทำงานกลุ่ม ผสานเป็นหนึ่งเดียว ศีรษะ สมอง และมือ เพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหาฝึกการทำงาน (H : HEAD HAND HEART and HOW) ขั้นที่ 5 การวัดและปะเมินผล (A : Assessment (A) และขั้นที่ 6 ขั้นการนำไปประยุกต์ใช้ (I : Implicating) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทักษะการแก้ปัญหาและการคิดวิเคราะห์สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ STCHAI Model