การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติฯ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น
ผู้ศึกษา นางสาวหทัยพร พรหมเทศ
สถานที่ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทบาทสมมติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I.) ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 22 คน ได้โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิตที่ได้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test dependent
ผลการศึกษา ดังนี้
1. ผลการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียน เท่ากับ 57.82 คิดเป็นร้อยละ 82.60 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 25.45 คิดเป็นร้อยละ 84.85 ซึ่งแสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน เท่ากับ 82.60/84.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ E1/E2 เท่ากับ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 17.77 คิดเป็นร้อยละ 59.24 คะแนนหลังเรียนเท่ากับ 25.45 คิดเป็นร้อยละ 84.85 ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งแสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นส่งผลต่อการเรียนอย่างเชื่อถือได้ เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
3. ค่าประสิทธิผลของนักเรียนทั้งหมดจากการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน เท่ากับ .6170 แสดงว่า หลังจากการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.70
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 (µ =4.26) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.50 ( =0.60)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น
ผู้ศึกษา นางสาวหทัยพร พรหมเทศ
สถานที่ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทบาทสมมติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I.) ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด เทศบาลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 22 คน ได้โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยใช้บทบาทสมมติ เรื่อง What do you want to be? ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิตที่ได้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test dependent
ผลการศึกษา ดังนี้
1. ผลการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียน เท่ากับ 57.82 คิดเป็นร้อยละ 82.60 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 25.45 คิดเป็นร้อยละ 84.85 ซึ่งแสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน เท่ากับ 82.60/84.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ E1/E2 เท่ากับ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 17.77 คิดเป็นร้อยละ 59.24 คะแนนหลังเรียนเท่ากับ 25.45 คิดเป็นร้อยละ 84.85 ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งแสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นส่งผลต่อการเรียนอย่างเชื่อถือได้ เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
3. ค่าประสิทธิผลของนักเรียนทั้งหมดจากการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน เท่ากับ .6170 แสดงว่า หลังจากการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.70
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้บทบาทสมมติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 (µ =4.26) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.50 ( =0.60)